กกท.เผยเบื้องหลังดีลยิงสดเอเชี่ยนคัพ ยันช้างศึกลิ่ว 16 ทีมมีให้ชมต่อแน่นอน

กกท.เผยเบื้องหลังดีลยิงสดเอเชี่ยนคัพ ยันช้างศึกลิ่ว 16 ทีมมีให้ชมต่อแน่นอน

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เผยส่งทีมเจรจา 3-4 วันจบดีลยิงสด ศึกฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2023 ชี้ค่าลิขสิทธิ์ไม่สูงอย่างที่เป็นข่าว เผยต่อหากช้างศึกฉลุยเข้ารอบ 16 ทีม มียิงสดให้ชมต่อแน่นอน

ความเคลื่อนไหวหลังจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า พีพีทีวี เอชดี และทีสปอร์ตส์ 7 ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล เอเชี่ยนคัพ 2023 ในประเทศไทยไปครองเรียบร้อยแล้ว

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้จะเห็นว่า กกท. จะไม่เข้าไปแทรกแซงการเจรจาของภาคเอกชน เนื่องจากไม่ใช้หน้าที่ของ กกท. และเงื่อนไขของช่องทีสปอร์ตนั้นระบุไว้ชัดเจนว่า จะไม่สามารถเข้าไปเสนอราคาแข่งกับภาคเอกชนได้ และอย่างที่ทราบกันดีว่าที่ผ่านมาก็มีความพยายามจากภาคเอกชน ที่พยายามเข้าไปเจรจา เพียงแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ

Advertisement

“หลังจากนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีหนังสือร้องขอมายัง การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ช่วยเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเข้ามา ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ชมและเชียร์ทีมชาติไทย กกท. จึงไปจับมือกับภาคเอกชนในการเข้าไปเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล เอเชี่ยนคัพ 2023 ของทีมชาติไทย

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้เครดิตทางภาคเอกชนด้วยที่เข้ามามีส่วยนร่วม ทำให้ช่องในการท่ายทอดสดจะเป็น พีพีทีวี เอชดี และ ทีสปอร์ตส์ 7 ถ่ายคู่กันเป็นหลัก ส่วนตัวเลขของงบประมาณนั้นยังบอกไม่ได้ เนื่องจากมีส่วนของเอกชนด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ได้สูงอย่างที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน”

ดร.ก้องศักด กล่าวอีกว่า การถ่ายทอดสด จะเริ่มตั้งแต่นัดแรกไปจนถึงนัดสุดท้ายของทีมชาติไทย ซึ่งในการพูดคุยกับเจ้าของลิขสิทธิ์ ก็ได้พูดคุยไปถึงหากทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ก็จะมีการถ่ายทอดสดให้ชมอย่างแน่นอน ดังนั้นเราก็ต้องช่วยกันเชียร์ทีมชาติไทยให้ผ่านเข้ารอบให้ได้ โดยในการเจรจาครั้งนี้ใช้เวลา 3-4 วันเท่านั้นจึงได้ข้อสรุปทั้งหมดออกมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image