อารีฟผงาดแชมป์โอเพ่นครองถ้วยพระราชทาน ศึกยิงปืนรณยุทธกรมการอุตสาหกรรมทหารฯ

อารีฟผงาดแชมป์โอเพ่นครองถ้วยพระราชทาน ศึกยิงปืนรณยุทธกรมการอุตสาหกรรมทหารฯ

สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมการอุตสหกรรมทหาร และสมาคมกีฬายิงปืนหัวหิน จัดการแข่งขันยิงปืนสั้นรณยุทธนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรายการยิงปืนรณยุทธ กรมการอุตสหกรรมทหาร ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ ที่สนามแข่งขันกีฬายิงปืนหัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์

รายการนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 169 คน จาก 4 ชาติ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, จีน, ลาว และไทย นอกจากนี้ยังนับเป็นสนามแข่งขันเพื่อคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทย สนามที่ 3  ที่สมาคมฯจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในเดือนสิงหาคม, การแข่งขันกีฬายิงปืนรณยุทธชิงแชมป์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤศจิกายน และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย

การแข่งขันแบ่งเป็น 6 ประเภท ชิงรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน จํานวน 6 รางวัล และรางวัลชนะเลิศถ้วยเกียรติยศจากปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 1 รางวัล, ถ้วยเกียรติยศจากรองปลัดกระทรวงกลาโหม 4 รางวัล, ถ้วยเกียรติยศจากผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 3 รางวัล และถ้วยเกียรติยศจากเจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร 3 รางวัล รวมเป็น 11 รางวัล

ADVERTISMENT

ส่วนผลแข่งขันในรายการที่ชิงถ้วยพระราชทาน 6 ดิวิชั่น ผู้ชนะเลิศในแต่ละดิวิชั่นมีดังนี้ โอเพ่น ดิวิชั่น แชมป์เป็นของอารีฟ อีลา นักกีฬาจากนราธิวาส, โปรดักชั่น ดิวิชั่น ณัฐภูมิ กมลวงษ์, โปรดักชั่น ออพติกส์ ดิวิชั่น หัสณัฐ วิจิตรปฏิมา, คลาสสิค ดิวิชั่น ศดิศกร ชมฤทธิ์, รีวอลเวอร์ ดิวิชั่น ศิวะ ขันตี, สแตนดาร์ด ดิวิชั่น ณัฐวัฒน์ นกไธสง

หลังจบการแข่งขัน พล.ร.อ.สุพพัต ยุทธวงศ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน, ถ้วยรางวัลเกียรติยศ และมอบเหรียญรางวัลให้กับนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขัน

ADVERTISMENT

นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เลขาธิการสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ เจ้าภาพคือ กรมการอุตสหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม โดยมีวัตถุประสงค์จะนำรายได้ที่ได้จากการแข่งขัน ทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และทางสมาคมได้กำหนดให้เป็นการแข่งขันคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อส่งแข่งขันในรายการสำคัญ ถึง 3 รายการในปี 2568 นี้

“ปีนี้สมาคมจะยังมีการแข่งขันระดับนานาชาติที่จะเป็นแมตช์คัดตัวทีมชาติอีก 3 ครั้ง คือ ที่อุบลราชธานี, จันทบุรี และสนามสุดท้าย ที่สนามของสมาคมที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้  ซึ่งสมาชิกนักกีฬาได้ให้ความร่วมมือเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเข้มข้นทุกครั้ง และทุกคนก็มีความตั้งใจพัฒนาฝีมือตัวเองกันเต็มที่ ทำให้ในทุกสนามแข่งขันจะเป็นการขับเคี่ยวที่สนุกและตื่นเต้นเร้าใจ ผมก็ยังมั่นใจว่า ในรายการชิงแชมป์โลกและซีเกมส์รวมถึงรายการนานาชาติอื่นๆ นักกีฬาไทยมีรางวัลติดมือกันหลายรายการแน่นอน” นายชลิตรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image