พสกนิกรนำดอกไม้-พวงมาลัยถวายสักการะในหลวง ร.9

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรีและประตูมณีนพรัตน์ สำหรับให้ประชาชนถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตลอด 24 ชั่วโมง เป็นวันที่ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พสกนิกรจากทุกสารทิศใส่ชุดสีดำสุภาพทยอยหลั่งไหลถวายดอกไม้และพวงมาลัยสักการะอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ท่ามกลางอากาศร้อนสลับฝน ประชาชนก็ไม่ย่อท้อกางร่มเข้าไปกราบสักการะ และสำหรับดอกไม้ที่ประชาชนนำมาถวายนั้น กรุงเทพมหานครจะนำไปประดับที่แท่นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่สวนรมณีนาถ และจะนำไปทำปุ๋ยน้ำชีวภาพต่อไป

Advertisement

นางจำเนียร มาลากุล อายุ 57 ปี ชาวเขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ กล่าวภายหลังถวายพวงมาลัยดอกดาวเรือง ที่ปลูกเองร้อยเองมาถวายสักการะด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า ปลูกต้นดาวเรืองมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว ปลูกเองที่บ้านประมาณ 20 กระถาง เพราะช่วงนั้นรัฐบาลเชิญชวนประชาชนปลูกต้นดาวเรืองที่เป็นดอกไม้ประจำพระองค์ ซึ่งดาวเรืองยังเป็นดอกไม้มงคลที่ปลูกแล้วผู้ปลูกจะเจริญรุ่งเรืองดั่งชื่อดอกไม้ ก็รู้สึกดีใจมากที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีกิจกรรมนี้ จึงนำดอกดาวเรืองที่ปลูกเองมาร้อยมัดละ 3-5 ดอกถวายด้วยความภาคภูมิใจ

“ตั้งใจจากนี้จะมาถวายพวงมาลัยทุกวัน ก็เอาดอกดาวเรืองที่ปลูกมาร้อยและถวายด้วยความภาคภูมิใจ ทั้งนี้ สำหรับวันที่ 13 ตุลาคม ดิฉันจะไปร่วมงานที่ รพ.ศิริราช ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ในพิธีทำบุญตักบาตร ช่วงเที่ยงก็ข้ามฝั่งมาหน้าพระบรมมหาราชวังเพื่อมาถวายพวงมาลัย ช่วงเย็นก็ข้ามกลับไป รพ.ศิริราชเพื่อร่วมสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป” นางจำเนียรกล่าว

นางจำเนียร มาลากุล

Advertisement

ขณะที่นางพันธนา เหรียญวิลาศ อายุ 59 ปี เดินทางมาจากเขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ กล่าวทั้งน้ำตาว่า นำพวงมาลัยมากราบลาพระองค์ ซึ่งยิ่งเข้าใกล้วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และยิ่งได้เห็นข่าวการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศก็ยิ่งรู้สึกใจหาย ทั้งนี้ ได้มาวันนี้เห็นคนหลากหลายอายุ จูงลูกหลานมากราบถวายสักการะพระองค์จำนวนมาก เห็นแล้วก็รู้สึกปลื้มใจว่าทุกคนรักพระองค์ มาถวายดอกไม้พวงมาลัยด้วยความพร้อมเพรียง ขณะที่วันที่ 13 ตุลาคม ตั้งใจว่าจะทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและจะมาถวายพวงมาลัยอีก

นางพันธนา เหรียญวิลาศ

น.ส.จิรันธนิน จิรัฐระพีร์ อายุ 39 ปี อาชีพแอร์โฮสเตส สายการบินแจแปนแอร์ไลนส์ กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ คือ นางปิ่นทิพย์ จิรัฐระพีร์ อายุ 73 ปี ชาวเขตบางเขน กรุงเทพฯ พอทราบข่าวว่าสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เช้าวันนี้จึงพาคุณแม่เดินทางมาเข้ากราบสักการะและถวายพวงมาลัย และในวันที่ 21 ตุลาคมก็จะเดินทางมาชมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ก่อนเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 22 ตุลาคม

“ที่มากราบพระองค์วันนี้เพราะในวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะไม่อยู่ประเทศไทย เพราะต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น ก็รู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่มีโอกาส ในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่วนตัวยึดมั่นและซึมซาบคำสอนของพระองค์ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความพยายาม ขยัน อดทน เวลาท้อก็จะคิดถึงพระองค์ก็จะมีพลังสู้ต่อ และในฐานะพสกนิกรของพระองค์ก็จะขอเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ” น.ส.จิรันธนินกล่าว

น.ส.จิรันธนิน จิรัฐระพีร์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image