บิ๊กก้องยันอัดฉีด 12 ล้าน น้องเทนนิสคว้าทองโอลิมปิก มั่นใจไทยตามเป้า 1-3 ทอง
“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ความพร้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย ที่จะลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 โดยในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ชิงชัยวันแรกอย่างเป็นทางการ 5 ชนิดกีฬา และเทควันโดแข่งจบรู้ผลในวันเดียวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ประชุมติดตามความเคลื่อนกับทุกสมาคมกีฬาทุกวัน ซึ่งก็ได้รับรายงานว่า นักกีฬาที่เดินทางมาถึงที่ญี่ปุ่นแล้ว ได้รับการดูแลจากทีมเจ้าหน้าที่ รวมถึงสถานทูตไทย ในกรุงโตเกียวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดส่งอาหาร
ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการชิงชัยวันแรก ถือว่านักกีฬาของเรามีลุ้นที่จะคว้าเหรียญทองเป็นการประเดิมจาก พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ซึ่งก็ถือเป็นนักกีฬาความหวังของเราและแฟนกีฬาไทย ซึ่งก็แน่นอนว่าหากเจ้าตัวคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ทาง กกท. โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ก็พร้อมจะอัดฉีดเงินสนับสนุนให้กับนักกีฬาทันทีเป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท ตามข้อกำหนด ซึ่งก็จะแบ่งจ่าย โดยจ่ายเป็นก้อนในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี ส่วนเหรียญเงินได้ 7.2 ล้านบาท และทองแดงได้ 4.8 ล้านบาท
“สำหรับการจ่ายเงินรางวัลมี 2 แบบ ถ้านักกีฬาเลือกแบบ 12 ล้าน ก็จะแบ่งจ่าย ก็ถือเป็นการช่วยให้นักกีฬาสามารถจัดสรรรายได้ในระยาวๆ ส่วนอีกแบบก็คือจ่ายครั้งเดียวเป็นก้อน 10 ล้านบาท และสำหรับเป้าหมายเหรียญทองในครั้งนี้ ผมก็ยังเชื่อว่านักกีฬาของไทยมีศักยภาพที่จะช่วยกันคว้าเหรียญทองได้ในระดับ 1-3 เหรียญ และหลายๆ กลุ่มกีฬาก็มีลุ้นที่คว้าเหรียญ ซึ่งผมก็ขอยืนยันว่าทางกกท. โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมจะสนับสนุนเงินรางวัลในทุกๆความสำเร็จที่เกิดขึ้นในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ โดยที่ผ่านมาทาง กกท.และกองทุนฯ ก็สนับสนุนงบประมาณการเก็บตัว ส่งทำการแข่งขันให้กับทุกๆ สมาคมกีฬามาอย่างต่อเนื่องและเต็มที่เป็นจำนวนเงินมากกว่า 198 ล้านบาท”
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่น่าดีใจคือ การได้เห็นนักกีฬาไทยจากหลายชนิดกีฬาผ่านเข้ารวมการแข่งขันหนนี้ ซึ่งโตเกียว 2020 ก็มีถึง 16 ชนิดกีฬา และเกินกว่าครึ่งก็เป็นนักกีฬาสายเลือดใหม่ ซึ่งมีโอกาสที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเอง และลงแข่งขันได้อีกหลายปี ซึ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 แบบนี้ ที่คนไทยอยู่บ้าน ตนเองก็อยากเชิญชวนให้แฟนๆช่วยกันส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทยทั้ง 41 คน ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งจะมีถ่ายทอดกลับมายังเมืองไทยในหลายๆช่องทาง ทั้งหน้าจอโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ตลอดการแข่งขัน
