เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส.และอดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวคิดของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่เสนอว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะนำรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 รวมทั้งร่างฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯและร่างฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) มาแก้ไขรวมกันว่า ตนมองว่าข้อดีของรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับมีอยู่แล้ว เช่น ในรัฐธรรมนูญ 40 และ 50 เรื่องสิทธิและเสรีภาพของชุมชน การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการตนเอง การศึกษาที่เรียนฟรี 12 ปี รวมทั้งอำนาจขององค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาลได้ดี โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 50
ที่สำคัญ ระบบเลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวต ในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวถือเป็นข้อดีอย่างมาก ซึ่งจากที่นายวิษณุได้มีแนวคิดดังกล่าวมานั้น ตนก็อยากฝากให้หยิบจุดเด่นขึ้นมาก และปกปิดจุดบกพร่อง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ เช่น ในรัฐธรรมนูญปี 40 ที่มีความบกพร่องเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะทำได้ยากเกินไป ตรงนี้ถือเป็นจุดบกพร่อง นอกจากนี้ การบริการจัดการของรัฐบาล ที่จะต้องมีระบบนิติรัฐ นิติธรรม มาบังคบใช้อย่างเข้มงวดให้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เพราะกฎหมายบ้านเรามีความเกือบจะสมบูรณ์ แต่การบังคับใช้ยังหย่อนยาน
นายถาวร กล่าวต่อว่า สำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ มีสิ่งสำคัญที่ถือเป็นจุดบกพร่อง คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่เกือบจะมีอำนาจรัฐซ้อนรัฐ แบบนี้ตนไม่เห็นด้วยหากจะมีการหยิบยกมา ส่วนร่างของนายมีชัย ในบืเฉพาะกาลเรื่องของที่มาส.ว.สรรหา ตนเห็นด้วย แต่ไม่ถึงร้อยเปอร์เซนต์ เพราะที่ผ่านมาส.ว.ที่มาฐานมาจากการเลือกตั้ง เกิดความบกพร่องในการทำงาน เนื่องจากมีฐานที่มาเดียวกับการเมือง หรือ ส.ส. ทั้งนี้ เห็นว่า ที่มาของส.ว.ควรจะมีกระบวนการสรรหาที่หลากหลายจากกลุ่มอาชีพและกลุ่มสังคมที่แท้จริงมากกว่าการแต่งตั้ง เพราะฉะนั้น หากนายวิษณุจะทำตามแนวคิดที่ระบุไว้ ก็ควรจะพิจารณาเอาแต่ข้อดีมา ไม่ควรนำข้อด้อยที่อาจเป็นประเด็นร้อนเข้ามาไว้ในรัฐธรรมนูญ
