เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีที่ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม จำนวน 32 ราย กรณีกรณี ก.อบต.มหาสารคาม จัดสอบแข่งขันบรรจุพนักงานส่วนตำบล ของ อบต. พื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม ระหว่างปี 2556-2557 โดยพบว่ามีการเปลี่ยนคะแนนผู้สอบได้ และมีการปลอมแปลงลายเซ็นมหาวิทยาลัยที่เป็นหน่วยงานกลางในการจัดสอบนั้น ว่า
ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้ขยายผลการไต่สวนไปอีกหลายพื้นที่ในหลายจังหวัดเพิ่มเติม เนื่องจากกรณีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในพื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้วย โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนฯพบข้อมูลบางอย่างที่มีความเชื่อมโยงกัน ส่วนมีพื้นที่ไหนบ้างไหน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าเร็วๆ นี้ จะสามารถดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้
เมื่อถามว่ากรณีนี้มีผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยว เพราะ อบต. เป็นฝ่ายของบประมาณมาบริหารจัดการเอง ผู้เกี่ยวข้องจึงมีแค่ระดับนายก อบต. และข้าราชการท้องถิ่นในพื้นที่เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 3 จำนวน 59 คน โดยให้ทั้งหมดระงับการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน
ซึ่งปรากฏชื่อของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม รวม 32 ราย นายยุทธเดช พลอยสังวาล อดีตเลขานุการ ก.อบต.มหาสารคาม ปัจจุบันเป็นท้องถิ่นจังหวัดนครพนม และนายอร่าม ศิริพันธุ์ หัวหน้าภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยนั้น ที่ขณะนั้นเป็นกรรมการผู้คุมสอบด้วย
