“ไอ้ก้านยาว”ออกโรง หนุนปลดล็อกการเมือง เปิดทางสู่โหมดเลือกตั้ง(ชมคลิป)

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ห้องประชุมศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.เมืองนครราชสีมา นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และ เป็นอดีตนักศึกษาที่ต่อสู้รัฐประหาร 14 ตุลาคม 2516 รู้จักในนาม “ไอ้ก้านยาว” เดินทางบรรยายพิเศษเรื่อง “การต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ” ซึ่งองค์กรเครือข่ายต้านการทุจริต ภาคประชาชน จ.นครราชสีมา(คตช.นม.) จัดขึ้น โดยมีผู้ร่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีต รมว.อุตสาหกรรม, นายสุนทร จันทร์รังสี อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายจักริน เชิดฉาย อดีตประธานกปปส. จังหวัดนครราชสีมา และผู้สนใจร่วมรับฟัง
จากนั้น นายประพัฒน์ กล่าวว่า ตนถูกฟ้องคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา จึงไม่ให้สัมภาษณ์เพราะเกรงจะเสียรูปคดี แต่ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว หลังศาลฎีกาตัดสินว่าพวกตนตัดสินใจไปด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง บริสุทธิ์ยุติธรรม ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำลงไป ไม่มีอคติกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่มีเจตนาเล่นงานใครทางการเมืองทั้งสิ้น ต้องขอขอบคุณศาลที่เป็นที่พึงให้ความถูกต้องได้ส่วนกรณีมีกระแสข่าวการซื้อเสียงล่วงหน้าทั้งที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง นายประพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่การเลือกตั้งครั้งหน้า ควรเป็นการเลือกตั้งที่ขาวสะอาด ไม่อยากให้เกิดความด่างพร้อย เพราะจุดหนึ่งที่ฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตยอ้างมาโดยตลอดว่า การเลือกตั้งมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันอย่างไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จึงเป็นข้อด่างพร้อยของฝ่ายที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หากทุกคนอยากต่อสู้เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยมีความยั่งยืน อยากให้นักการเมืองทุกคนเล่นการเมืองด้วยความยุติธรรม ละเว้นการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแบบเก่า นำความนิยมด้านความคิด นโยบาย และการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนจะยั่งยืนกว่า “พี่น้องประชาชนควรยั้งคิดด้วยว่า การที่เราไปรับเงินจากนักการเมืองเพียงไม่กี่บาทมา แล้วถูกนักการเมืองเหล่านั้นเอาอำนาจของเราไปถึง 4 ปี มันไม่คุ้มหรอก สู้เราเลือกเขาเข้าไปในรัฐสภาใช้ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมจะดีกว่า ต้องการประโยชน์อะไร ก็เสนอให้เป็นนโยบายทางการเมือง ให้นักการเมืองไปทำงาน จะเกิดประโยชน์มากกว่าในระยะยาว ส่วนเรื่องจะปลดล็อก หรือคลายล็อกทางการเมืองเมื่อไหร่นั้น ยังไม่อยากเข้าไปก้าวล่วง เพราะขณะนี้ผมอยู่ในฐานะประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งยังต้องประสานความร่วมมือกับรัฐบาลอยู่ แต่ถ้าพูดในฐานะของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ก็อยากจะเห็นประเทศไทยรีบก้าวไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนมีอำนาจเลือกอนาคตของตนเอง เพราะประชาชนต้องการประสบการณ์การเรียนรู้ ถ้าเลือกนักการเมืองไปแล้ว ได้คนไม่ดีมาบริหารประเทศ การเลือกตั้งครั้งใหม่เขาก็ตัดสินใจเลือกคนใหม่ได้” นายประพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนนักการเมืองทั้งหลาย ขอให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องเปิดหัวใจไว้ 1 ดวง เพื่อคุยกันได้ และปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่นำความบาดหมางส่วนตัว หรือความบาดหมางของพรรคมาเป็นตัวตั้ง จนกลายเป็นยืนอยู่คนละขั้ว เพราะแท้จริงแล้ว ทุกพรรคล้วนยืนอยู่ฝ่ายประชาชนด้วยกันทั้งนั้น จึงสมควรเปิดหัวใจไว้สัก 1 ห้องไว้นั่งลงพูดคุยกันได้ เพราะระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นระบอบการปกครองที่ประชาชนสามารถตรวจสอบกันได้ แน่นอนไม่มีระบอบการปกครองไหนดีที่สุด 100% แต่อย่างน้อยที่สุดระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกคนไปทำงานแทนตัวเองได้ เลือกอนาคตของเขาเองได้ ไม่ใช่จะเลือกใครที่ไม่รู้จัก ไม่มีสายใยผูกพันเข้ามาทำงานแทนตัวเอง อย่างนี้อันตรายมาก“หลังการเลือกตั้ง จะมีความรุนแรง หรือจะปฏิวัติรัฐประหารอีกหรือไม่นั้น พยากรณ์ไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วยว่า จะสามารถสร้างความรู้ ความเข้าใจเรื่องความขัดแย้งของขั้วการเมืองต่างๆให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ต้องยึดเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลนี้เลย คนไทย ก็คือ คนไทย จะฆ่ากันให้ตายยังไงก็เป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้นจะอยู่คนละพรรค คนละขั้ว ต่างความคิด อย่างไรก็คือคนไทยที่พูดภาษาเดียวกัน จึงไม่มีอะไรที่พูดคุยกันไม่ได้ ในทางกลับกัน ถ้ารัฐบาลชุดนี้เลือกข้าง จะทำให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น” นายประพัฒน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image