นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเร็วและแข็งกว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคในช่วง2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศโดยปัจจัยภายนอกมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เงินบาทและเงินสกุลกลุ่มประเทศเกิดใหม่ผันผวนสูงธปท. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดโดยหากแข็งค่าต่อเนื่องและเร็วขึ้นเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่งอาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของไทยและอาจส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงและการปรับตัวของผู้ประกอบการโดยธปท. จะเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามธุรกรรมที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาทซึ่งเป็นสิ่งที่ธปท. ไม่พึงประสงค์
นางสาววชิรา กล่าวว่า ในระยะต่อไปปัจจัยภายนอกจะยังคาดการณ์ได้ยากและจะส่งผลให้ค่าเงินสกุลประเทศเกิดใหม่ผันผวนได้ต่อเนื่องภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนโดยช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้มีภาระหนี้หรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นสกุลเงินต่างประเทศรวมทั้งธุรกิจสามารถนำเข้าสินค้าและเครื่องจักรหรือเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศด้วยต้นทุนค่าเงินที่ถูกลง
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว