นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่30.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐโดยในคืนที่ผ่านมาดัชนีS&P500 ของสหรัฐฯดัชนีSTOXX50 ของยุโรปและดัชนีFTSE100 ของอังกฤษปรับตัวขึ้นทั้งหมดจากท่าทีที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลกปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องกดดันเงินเยนให้แข็งค่า0.5% แตะระดับ107.3 เยนต่อดอลลาร์ต่ำที่สุดของเงินเยนในรอบกว่า1 ปีขณะที่เงินบาทปัจจุบันก็แข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า6ปีนอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงราคาทองคำขยับขึ้น2.0% สู่ระดับ1,387 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า4/4% แตะระดับ64.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังสหรัฐฯขู่โจมตีอิหร่าน
นายจิติพล กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วตามภูมิภาคเอเชียและกลุ่มตลาดเกิดใหม่เพราะระยะสั้นตลาดมั่นใจมากว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยเดือนหน้าและนายโดนัลทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐจะเจรจากับนายสีจิ้นผิงได้ในช่วงสิ้นสัปดาห์สำหรับสัปดาห์หน้าต้องจับตาว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะหวั่นไหวไปกับกระแสนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของต่างประเทศหรือไม่เพราะปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ถือเป็นธนาคารกลางที่เข้มงวดกว่าที่อื่นมากถ้ายังคงมุมมองว่าต้องขึ้นดอกเบี้ยอยู่เงินบาทก็จะแข็งค่ามากกว่าที่อื่น
“วันนี้มองว่าเงินบาทมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบกว้างระยะสั้นการปรับตัวลงอย่างรวดเร็วทำให้ผู้นำเข้าทยอยสะสมเงินดอลลาร์บ้างแต่ถ้าเงินบาทแข็งค่าต่อไปเรื่อยๆก็คาดว่าผู้ส่งออกจะชะลอการซื้อลงเช่นกันคาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.80 – 31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” นายจิติพลกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
