วันที่ 2 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,699.75 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,678.79 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,684.71 จุด ปรับลดลง 15.04 จุด หรือ 0.88% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,687.15 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,671.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 82,045.40 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,598.60 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 550.73 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,632.21 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,781.53 ล้านบาท
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้ มีประเด็นกดดันอยู่หลายเรื่อง โดยเรื่องหลักเป็นการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มีการทวีตข้อความผ่านช่องทางทวิตเตอร์ว่า สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะบังคับใช้ในวันท่ี 1 กันยายนนี้ ซึ่งความจริงแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่เหนือคาดการณ์เดิมของตลาดมากนัก แต่การที่ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงแรง เป็นเพราะตลาดไม่ได้ตั้งตัวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมากกว่า สำหรับเหตุการณ์คล้ายวางระเบิดและเกิดระเบิดจริง ในช่วงเช้าที่ผ่านมาเชื่อว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นและการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะเหตุการณ์ไม่ได้มีความรุนแรงจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต จึงคาดว่าตลาดน่าจะไม่ได้ตอบรับในแง่ลบมากนัก
“ช่วงเช้าที่ดูดัชนีปรับลดอย่างหนักหน่วงมาก เป็นเพราะมีการเกิดเหตุการณ์คล้ายวางระเบิดและวางระเบิดจริงๆ ขึ้นหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงสร้างความกังวลในเหตุการณ์ดังกล่าวบวกกับเทรดวอร์ที่ตลาดรับรู้แล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวทำลายบรรยากาศการลงทุนค่อนข้างมาก ต่อมาในช่วงบ่ายเริ่มคลายตัวได้มากขึ้น เพราะมีการพบว่าวัตถุต้องสงสัยแต่ไม่ได้เป็นระเบิด ทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวลลง สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันนี้ถือว่ายังแข็งแกร่งอยู่ รวมถึงตลาดหุ้นในอินโดนิเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ส่วนตลาดหุ้นที่เหลือในภูมิภาคเดียวกันน่าจะค่อนข้างหนักหน่วงพอสมควร”นายประกิตกล่าว
นายประกิต กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในสัปดาห์หน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสามารถฟื้นตัวต่อได้ เพราะตลาดรู้ว่าเทรดวอร์เป็นเกมที่เกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งคาดว่าตลาดจะมาให้น้ำหนักในการคาดหวังว่า จะเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ มากกว่า โดยน่าจะสามารถฟื้นกลับขึ้นไปทดสอบระดับ 1,700 จุดได้ สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ รอให้ตลาดปรับขึ้นในแนวระดับ 1,700 จุดก่อน ไม่ได้แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนลงมาในขณะนี้ เพราะระดับดัชนีในตอนนี้เป็นแนวระดับที่ยังไม่เหมาะในการปรับลด รวมถึงอย่าพึ่งรีบร้อนในการเข้าซื้อสะสม ให้รอจนกว่าตลาดจะนิ่งกว่านี้ก่อน
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
