ด้วยความที่ ยูโร 2016 มีการเพิ่มจาก 16 เป็น 24 ทีม ทำให้มีทีมที่ถูกเรียกว่า “ทีมรองบ่อน” ผ่านเข้ามาแข่งรอบสุดท้าย ที่ฝรั่งเศสอยู่หลายทีม บางทีมได้สิทธิมาแข่งเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ บางทีมเคยมาแล้วหลายสิบปีก่อน แต่ไม่มีทีมไหนที่จะยอมรับว่าชาติตัวเองอ่อนด้อยกว่าคู่แข่งแน่ๆ
ไอร์แลนด์เหนือ เป็นหนึ่งในทีมที่ได้มาบู๊ในยูโรหนนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็เคยได้ไปฟุตบอลโลกมาแล้ว 3 ครั้งในอดีต ครั้งล่าสุดต้องย้อนไปถึงฟุตบอลโลก 1986 หรือ 30 ปีที่แล้ว
ทีมทหารเขียวขาวถูกวางอยู่ในโถ 5 ของรอบคัดเลือก รั้งอันดับ 129 ของโลก ในปี 2012 ซึ่งเป็นปีเริ่มรอบคัดเลือก ยูโร 2016 แต่สามารถล้มคู่แข่งที่ถือว่าดูดีกว่าอย่าง โรมาเนีย ฮังการี กรีซ ลงได้ จนทะยานไปคว้าแชมป์กลุ่มได้แบบหล่อสุดสุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายชื่อนักเตะของไอร์แลนด์เหนือแล้ว แทบไม่มีสตาร์อยู่ในทีม ทีมเพื่อนบ้านอย่าง เวลส์ ยังมี แกเร็ธ เบล นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกจาก รีล มาดริด พวกเขามีนักเตะที่เล่นในอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นอะไรกับต้นสังกัด
คอเนอร์ แม็คลัฟลิน แบ๊กขวาตัวหลักเล่นให้ ฟลีทวู้ด ทาวน์ ในลีกวันหรือดิวิชั่น 3 ที่อังกฤษ ไมเคิล แม็คโกเวิร์น นายทวารมือหนึ่งค้าแข้งกับ แฮมิลตัน อคาเดมิคาล ในลีกสูงสุดสกอตแลนด์ คอเนอร์ วอร์ชิงตัน มิดฟิลด์จาก คิวพีอาร หลายปีก่อนยังมีอาชีพเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่รับจ๊อบเตะบอลในบอลนอกลีก หรือแม้แค่ ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ กองหน้าความหวังสูงสุดก็ไม่เคยได้เล่นให้กับ นอริช ซิตี้ ต้นสังกัดที่แท้จริงเลยใน 2 ปี ต้องผจญภัยในฐานะนักเตะยืมตัวไป 3 สโมสร และยิงรวมกันได้เพียง 5 ประตูตลอดเวลา 2 ปี แต่ยิงให้ทีมชาติในรอบคัดเลือกยูโร 2016 ไปถึง 7 ลูก
เรียกง่ายๆ ว่าทีมนี้ไม่มีอะไรให้สนใจเลยจริงๆ แต่ ไมเคิล โอนีล กุนซือของไอร์แลนด์เหนือเผยถึงทีเด็ดของทีมว่า “นักเตะทุกคนที่ได้ใส่เสื้อเขียวขาวของไอร์แลนด์เหนือ จะยกระดับความสามารถของตัวเองได้ดีกว่าในยามที่เล่นให้สโมสรได้เสมอ”
ภาพจาก www.skysports.com
ตำแหน่งกุนซือของไมเคิล โอนีลก็คงไม่ต่างจากการลงเล่นในทีมชาติของนักเตะ เพราะอดีตผู้จัดการทีม เบรชิน ในลีกรองของสกอตแลนด์ และ แชมร็อก โรเวอร์ส ทีมชั้นนำในลีกไอร์แลนด์ สามารถก้าวขึ้นมาพาทีมชาติบ้านเกิดของตัวเองสร้างประวัติศาสตร์ลุยยูโร และมายืนเทียบเคียงกับกุนซือย่าง โยอาคิม เลิฟ ของ เยอรมนี บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ของ สเปน หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ของ อิตาลี
“ถ้าคุณดูให้ดีไอร์แลนด์เหนือก็คล้ายๆ กับเลสเตอร์ ซิตี้ นักเตะชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกของพวกเขาก็มาจากทีมโนเนมเหมือนกัน เลสเตอร์เล่นกันเป็นทีม เน้นการเซตบอล กองหลังก็สามารถขึ้นมาทำประตูเป็นกอบเป็นกำได้ และไอร์แลนด์เหนือของเราก็มีแกเร็ธ แม็คออลี่ย์ กองหลังที่ซัด 3 ประตูในรอบคัดเลือก และเป็นรองดาวซัลโวของทีมในรอบคัดเลือกด้วย” โอนีลกล่าว
ไอร์แลนด์เหนือลงเล่นนัดแรกในกลุ่มซี แพ้ โปแลนด์ แบบสนุก 0-1 ทั้งๆ ที่คาดการณ์กันไว้ว่าทีมน้องใหม่จะโดนทีมของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าฟอร์มฮอตถล่มแน่นอน แต่พวกเขาก็ช่วยแพ็กเก็บรับ วิ่งสู้ฟัดลุ้นประตู ก่อนจะแพ้ฉิวเฉียดแต่ได้ใจแฟนบอลเต็มๆ
สองนัดที่เหลือจะเจอกับ ยูเครน และเยอรมนี ถือว่าเป็นงานหนักสาหัสของพวกเขา เพราะต้องชนะให้ได้อย่างน้อย 1 แมตช์ ถ้าหวังจะเข้ารอบ 16 ให้ได้
คอเนอร์ แม็กลัฟลินที่จะต้องคอยประกบ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์เวิลด์คลาสของทัพอินทรีเหล็กบอกว่า “สองปีที่แล้วยังไม่มีใครรู้จักผมเลย นี่เป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมมากที่จะได้สู้กับนักเตะซุปเปอร์สตาร์ของโลก”
เช่นเดียวกับแม็คลัฟลิน นักเตะอีกหลายคนไม่เป็นที่รู้จักของแฟนบอลนอกประเทศไอร์แลนด์เหนือ เพราะพวกเขาเล่นในลีกสก๊อต 4 คน 4 คนจากลีกวัน อังกฤษ มี 1 คนจากลีกทู และ 7 แข้งจากลีกแชมเปี้ยนชิพ 4 คนจากพรีเมียร์ลีก และลีกเล็กๆ ในแถบสหราชอาณาจักร
แม้แต่แม็คออลี่ย์ในวัย 36 ปี ยังยอมรับว่า เป็นเรื่องน่าหัวเราะนะที่แก่ขนาดนี้แล้ว ยังมีโอกาสได้มาเล่นยูโรอีก (ทั้งๆ ที่ตอนหนุ่มๆ ไม่เคยได้เล่นเลย)
ไอร์แลนด์เหนือนำเสนอตัวตนเหมือนเป็นทีมที่ไม่มีอะไรให้คาดหวัง ไม่มีอะไรน่าสนใจ หรือคำว่า “โนบอดี้” ที่นิยมเรียกกัน และความเรียบง่ายนี้นี่เองที่ทำให้นักเตะทุกคนวิ่งไล่บอลกันสุดพลัง เพื่อแสดงให้คนที่เรียกพวกเขาว่า “รองบ่อน” ผิดหวังกับความคิดแบบนี้
