สิงที่กองเชียร์อยากเห็นในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล คือ การยิงประตูถล่มทลาย แต่ในยูโรครั้งนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะหลายแมตช์ชนะกันแค่ลูกเดียว ยังไม่มีทีมที่ยิงแหลกเกิน 2 ลูก ใน 3 กลุ่มแรก แต่สิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากจะเจอกลับเกิดขึ้นทุกวันในยูโร 2016 นั่นคือ การสร้างความวุ่นวายของ ฮูลิแกน
ตั้งแต่ยูโรเริ่มแข่งขันมีการตะลุมบอนกันไปแล้ว 3 เหตุ แฟนบอล อังกฤษ ฟัดกับ รัสเซีย ที่มาร์เซย กองเชียร์ ยูเครน บู๊กับแฟนฮาร์ดคอร์ เยอรมนี ที่ลีลล์ และสาวก ไอร์แลนด์เหนือ ระเบิดศึกกับ โปแลนด์ ที่นีซ และน่าจะมีเพิ่มเติมอีกแน่นอน
สื่อในพื้นที่ได้เปิดใจฮูลิแกนรัสเซียรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า วลาดิเมียร์ แต่ไม่ขอเปิดเผยนามสกุล ถึงการก่อความวุ่นวายในทัวร์นาเมนต์นี้
วลาดิเมียร์หนึ่งในผู้ก่อความวุ่นวายระหว่างแฟนหมีขาวและสิงโตคำรามบอกว่า ฮูลิแกนจากดินแดนหมีขาวที่ “แข็งแกร่งที่สุด” ประมาณ 150 คน ได้เดินทางไปที่มาร์เซย และไม่สนใจว่าแฟนบอลคนอื่นๆ จะมาจากเมืองไหน มาเชียร์ทีมอะไร แต่สิ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอ คือ พวกเรามาจากรัสเซียและเราจะมาบู๊กับคนอังกฤษเท่านั้น
ฮูลิแกนรัสเซียดูจะไม่สนใจคำขู่ของยูฟ่าที่ส่งทัพอังกฤษและรัสเซียกลับบ้านก่อนกำหนดแน่นอน ถ้าแฟนบอลคู่นี้ยังวิวาทกันเป็นคำรบสอง และให้ความสนใจเกมการแข่งขันน้อยมาก เมื่อเทียบกับเป้าหมายการมาทำลายล้างแฟนบอลอังกฤษในรัสเซีย ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง โลโคโมทีฟ มอสโก, ซีเอสเคเอ มอสโก หรือ เซนิต เซ้นต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จะมีกลุ่มฮูลิแกนประจำทีมนับร้อยคน และครั้งนี้วลาดิเมียร์ซึ่งเป็นฮูลิแกนของฝั่ง
โลโคโมทีฟ มอสโก รวมพลกันมาฝรั่งเศส 500-600 คนเลยทีเดียว
“คนอังกฤษชอบบอกว่าตัวเองเป็นฮูลิแกนต้นตำรับ พวกเราจึงต้องพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ต่างหาก” วลาดิเมียร์เย้ยหยันพร้อมทั้งบอกถึงความแตกต่างระหว่างฮูลิแกนสองชาติไว้ด้วย
“ฮูลิแกนอังกฤษจะเป็นคนแก่ๆ ขี้เมา ชอบขว้างปาเก้าอี้และขวดใส่คู่อริ แต่รัสเซียจะเป็นคนหนุ่มอายุ 20-30 ปี มีศิลปะป้องกันตัวติดตัวกันทุกคน เรามาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อจะทำร้ายหรือฆ่าใคร เรามาเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของการเป็นฮูลิแกนรัสเซียเท่านั้น”
แต่วลาดิเมียร์คงลืมไปว่า ไม่ว่าฮูลิแกนจะมาในรูปแบบไหน ก็ย่อมถูกสังคมโลกประณามอยู่ดี
