ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมนี แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 และแชมป์เก่ายูโร 3 สมัย ดีกรีที่พกมาฟาดแข้งยูโร 2016 ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความสำเร็จในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา เกิดมาจากการที่เยอรมนีมีแดนกลางหัวครีเอทอย่าง เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิตเซ่, โทนี่ โครส อยู่ในทีม ประกอบกับนักเตะคนอื่นๆ ที่ลงตัวกันในเวลาที่เหมาะเจาะ อย่างไรก็ตามในยูโร 2016 ทีมอินทรีเหล็กมีหลายคำถามที่ยังต้องหาคำตอบ เพื่อจะได้กรุยทางไปคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้อีกสักครั้ง หลังจากไม่ได้สัมผัสแชมป์รายการนี้มาแล้ว 20 ปีเต็ม
คำถามแรกคือ ใครเหมาะสมที่สุดที่จะยืนกองหน้าให้ทีม เพราะเยอรมนีชุดนี้แทบหากองหน้าธรรมชาติได้เลย ประเด็นนี้มองกันว่าให้เกิตเซ่ยืนกองหน้าตัวต่ำ และมุลเลอร์ยืนกองหน้า แต่สถิติของมุลเลอร์กับยูโรดูจะไม่สมพงษ์กันเลย เพราะเขายังยิงประตูในยูโรไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เล่นหนนี้เป็นครั้งที่สองของตัวเองแล้ว หรืออีกทางเลือกให้ มาริโอ โกเมซ กองหน้าตัวเก๋าทำหน้าที่ไปเลย เพราะผลงานกับ เบซิกตัส ในลีกตุรกี ซีซั่นที่ผ่านมาซัดไปถึง 26 ลูก ช่วยเบซิกตัสคว้าแชมป์ลีกได้เสียด้วย
“ถ้าโค้ชต้องการให้ผมลงเล่นแม้แค่นาทีเดียวผมก็จะทุ่มเททุกอย่างอย่างเต็มที่ แต่ถ้าไม่ได้ลงเล่นก็จะทำทุกอย่างในการซ้อม เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา เพราะเป้าหมายของผม คือ การทำทุกอย่างให้ทีมได้แชมป์ครั้งนี้ และอยากจะมีส่วนร่วมกับทีม แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะกดดันให้โค้ชเลือกผมลงเล่นนะ” โกเมซเปิดใจ
แต่คำตอบนี้ก็ยังมีข้อกังขา เพราะการรับใช้ชาติของกองหน้าร่างโย่งคนนี้ มักจะทำได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับในสโมสร และใช้โอกาสเปลืองทีเดียว
ปัญหาอีกอย่างของอินทรีเหล็ก คือ การยังไม่สามารถผสานเกมรุกเข้ากับเกมรับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในฟุตบอลโลก 2010 เยอรมนียังเน้นเกมสวนกลับเป็นหลัก และถ้าสามารถยิงประตูขึ้นนำได้เร็ว ก็จะเข้าทางพวกเขา เพราะสามารถเน้นเกมรับได้เป็นหลัก และรอให้คู่แข่งเผลอ สวนไปยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ฟุตบอลโลกครั้งนั้นนักเตะของเลิฟยิง 4 ประตูในแมตช์เจอกับ ออสเตรเลีย อังกฤษ อาร์เจนตินา แต่ถ้ายิงนำเร็วไม่ได้ งานยากก็จะมาเยือนทันที สุดท้ายก็ไปแพ้ เซอร์เบีย และ สเปน 0-1 ทั้งคู่ และกว่าจะยิง กานา ได้ 1-0 ก็ลุ้นเหนื่อยทีเดียว
หลังจบฟุตบอลโลก 2010 เลิฟเปลี่ยนแผนให้ลูกทีมเล่นเกมรุกมากกว่าเดิม แต่พยายามที่จะไม่ลืมปรัชญาเกมรับแล้วสวนกลับของตัวเอง อย่างไรก็ตามเยอรมนีก็ยังคงไม่ได้แชมป์ยูโร 2012 อยู่ดี จึงต้องปรับกันอีกครั้งด้วยการเดินหน้าเกมรุกเต็มสูบ เรียก มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าจอมโขกกลับมาติดทีมอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ได้ผลเสียที อินทรีเหล็กคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ พร้อมทั้งสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงถล่ม “เจ้าภาพ” บราซิล ในรอบรองชนะเลิศ 7-1 แต่ผ่านมา 2 ปี เยอรมนีก็ดูเหมือนจะอ่อนแอลงอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์โลกได้ ทีมของเลิฟแพ้ โปแลนด์ (ครั้งแรกในประวัติศาสตร์) ไอร์แลนด์ ในรอบคัดเลือก ยูโร 2016 แพ้อังกฤษ และ สโลวาเกีย ในแมตช์อุ่นเครื่อง
กองหลังก็ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งคำถาม โยนาส เฮคเตอร์ กองหลังวัย 26 จาก โคโลญจน์ ถูกเรียกตัวมาติดทีมอย่างเซอร์ไพรส์ แฟนบอลตั้งคำถามถึงการมาเล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้ายแทนที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีมชุดแชมป์โลกที่เลิกรับใช้ชาติไป เพราะก่อนหน้านี้โยนาสเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางจนถึงอายุ 20 พอย้ายมาโคโลญจน์นั่นแหละถึงได้มาเล่นแบ๊กซ้าย นอกจากนั้นตลอดปี 2015 เลิฟลองใช้นักเตะยืนตำแหน่งนี้หลายคน แต่ยังไม่มีใครได้ทำหน้าที่ในระยะยาวสักคน
คำถามสุดท้ายว่ากันถึงเรื่องนักเตะเจ็บของทีม มาร์โก้ รอยส์ ปีกตัวเก่ง อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์เชิงสูง เจ็บจนไม่สามารถมาร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ กองกลางคนสำคัญเจ็บจนเกือบไม่ได้เล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในหลายเดือนหลัง ซามี่ เคห์ดิร่า มิดฟิลด์ตัวรับก็ไม่ได้ฟิตมากนัก
คำถามทั้งหมดจะค่อยๆ ถูกตอบเรื่อยๆ ในยูโรหนนี้ แต่คำถามทุกอย่างจะหมดไป ถ้าอินทรีเหล็กคว้าแชมป์ยูโรหนแรก 20 ปีได้เสียที
