ฝรั่งเศสชนะ 2 นัดรวดเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะใครๆ ก็คาดไว้อยู่แล้ว
ที่แปลกนิดหน่อยคือ กว่าจะชนะแต่ละนัดโคตะระยาก ทั้งนัดเจอโรมาเนีย และ แอลเบเนีย เจ้าภาพมายิงประตูชัยเอาตอนท้ายเกม เหนื่อยแทบตายทั้งคู่
ฝรั่งเศสยังไม่ท็อปฟอร์ม เกมรุกยังไม่เข้าที่เข้าทาง เพลย์เมกเกอร์มี ดิมิทรี ปาเย็ต เล่นแจ๋วอยู่คนเดียว ปอล ป๊อกบา แค่ใช้ได้ คนอื่นยังถือว่าน่าผิดหวังโดยเฉพาะ เบลส มาตุยดี้ ที่เงียบสนิทแทบไม่มีบทบาทอะไรเลย
แต่ผมว่าการเล่นไม่ค่อยดีแล้วยังชนะได้เป็นการเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ที่น่าสนใจ จะมองว่ามีลูกเฮง วาสนาดีก็ได้ หรือจะบอกว่าค่อยๆ เริ่มต้นช้าๆ แล้วพัฒนาไปตามระยะทางก็อาจจะถูก
เพราะความจริงอย่างหนึ่งก็คือ ฝรั่งเศสยังเล่นได้ดีกว่านี้ ขึ้นอยู่กับว่าจะท็อปตอนไหน อาจเป็นรอบน็อกเอาต์ รอบรองฯ หรือรอบชิงก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
คนเชื่อใจ ยอมซื้อใจเจ้าภาพ เพราะเห็นว่าทีมนี้มีออปชั่นเยอะ เด่นตรงแนวรุก แถวสองที่ตุนตัวเก่งไว้เพียบ
ฝั่งซ้าย อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เล่นไม่ออกก็สลับเอาปาเย็ตมาแทน
ฝั่งขวามีให้เลือกทั้ง อ็องตวน กรีซมันน์ และ คิงส์ลีย์ โกม็อง ตรงกลางก็เหลือตัวดังๆ อย่าง โยอัน กาบาย, มุสซ่า ซิสโซโก้ รอสแตนบายพร้อมลงมาเสริมตลอดเวลา
กุนซือ ดิดิเยร์ เดส์ชอง สามารถจัดทีมเหมือนเล่นเกมฟีฟ่าได้เลย สองนัดที่ผ่านมาแฟนๆ คงเห็นแล้วว่า การมีตัวเลือกเยอะทำให้ฝรั่งเศสได้เปรียบขนาดไหน
แต่แน่นอนว่า เด็ดสุดในทีมย่อมหนีไม่พ้น ดิมิทรี ปาเย็ต
ความสารพัดประโยชน์ของ ปาเย็ตช่วยทีมตราไก่ได้มหาศาล เล่นดีทั้งริมเส้น ตรงกลาง ซัดประตูจากโอเพ่นเพลย์ไปแล้ว 2 ลูก เป็นตัวรับเหมาลูกนิ่งฟรีคิกของเขาก็หวังผลได้มากกว่าทุกคนในทีม
หรือบางทีอาจคมที่สุดในยูโรคราวนี้
ปาเย็ตแจ้งเกิดในทีมชาติช้า กว่าจะดังอายุปาเข้าไป 29 ปี เส้นทางคล้ายๆ เจมี่ วาร์ดี้ สองคนนี้ชดเชยเวลาที่หายไปด้วยการใช้ทุกนาทีในสนามอย่างคุ้มค่าเน้นเกินร้อยทุกนัด
สำหรับปาเย็ต การที่ฝรั่งเศสยังไม่เพอร์เฟ็กต์ ยิ่งเปิดโอกาสให้เขาโชว์พาว กองหน้าฝืดทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยว
ปาเย็ตจัดให้ บุกจากโอเพ่น เพลย์ เจาะไม่เข้าก็ยังมีไม้ตายเป็นลูกนิ่งที่สั่งได้ของปาเย็ต
ยิ่งดูยิ่งอดคิดไม่ได้ว่า หมอนี่มีสิทธิเป็นสตาร์ของทัวร์นาเมนต์
เอกราช เก่งทุกทาง
