จากการย้อนดูสถิติต่างๆ ของฟุตบอล ยูโร 2016 หลังจากจบนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้เห็นว่ายูโรหนนี้มีข้อมูลและผลบางอย่างใกล้เคียงกับ ยูโร 1996 ที่ “อังกฤษ” เป็นเจ้าภาพเมื่อ 20 ปีที่แล้วอยู่พอสมควร แต่ก่อนอื่นขอย้ำไว้ก่อนเลยว่า เป็นสถิติหลังจบแมตช์แรกของทุกทีม ในรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างแรกเลย คือ ปี 1996 ยูโรเพิ่มจากเดิมที่มี 8 ทีมในรอบสุดท้าย เป็น 16 ทีม และในยูโร 2016 เพิ่มจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม รวมทั้งเจ้าภาพโดนผู้ก่อการร้ายสร้างความเสียหายก่อนจะเปิดการแข่งขันเหมือนกัน ยูโรที่อังกฤษ หน่วยก่อการร้ายเพื่ออิสรภาพไอร์แลนด์ หรือ “ไออาร์เอ” ได้ลงมือลอบวางระเบิดทั้งที่กรุงลอนดอนและเมืองแมนเชสเตอร์ มีผู้เสียชีวิต 2 คน จาก 3 เหตุการณ์ และบาดเจ็บหลายร้อยคน เช่นเดียวกับที่กรุงปารีสโดนผู้ก่อการร้าย “ไอซิส” วางระเบิดและกราดยิง จนมีผู้เสียชีวิตไป 130 ราย
นัดเปิดสนามของเจ้าภาพโดนจุดโทษทั้งคู่ ปี 1996 อังกฤษเสียจุดโทษให้ “สวิตเซอร์แลนด์” และ “คูบิเลย์ เติร์กยิลมาซ” ยิงให้สวิสตีเสมอ 1-1 ขณะที่ “โรมาเนีย” ได้ประตูตีเสมอ “ฝรั่งเศส” 1-1 เช่นกัน แต่มันต่างกันตรงที่ฝรั่งเศสชนะ 2-1 อังกฤษในวันนั้นจบด้วยผลเสมอ 1-1 ตามมาด้วยการที่แชมป์เก่าจะถูกจับมาอยู่ร่วมกับ “โครเอเชีย” และ “ตุรกี” ปี 1996 “เดนมาร์ก” แชมป์เก่าปี 1992 และ “สเปน” แชมป์เก่า 2 ครั้งหลังสุด ต่างมาเจอกับสองทีมในรอบแบ่งกลุ่มเหมือนกัน ครั้งนั้นเดนมาร์กตกรอบแรก ส่วนสเปนจะประสบชะตากรรมเดียวกันหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้
ทีมจากคาบสมุทรบอลข่านเข้าแข่งขันยูโรเป็นครั้งแรก ปี 1996 โครเอเชียที่แยกออกมาจาก “ยูโกสลาเวีย” เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่แพ้จุดโทษ “เนเธอร์แลนด์” ตกรอบไป ส่วนครั้งนี้ “แอลเบเนีย” เข้าแข่งขันเป็นครั้งแรก และแทบจะตกรอบแน่นอนแล้ว นอกจากนั้นโครเอเชียยังเอาชนะตุรกี 1-0 ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มเหมือนกันอีกต่างหาก
สถิติเกมในสนามไม่มีทีมไหนที่ยิงประตูได้เกิน 2 ลูก และยังไม่มีนัดไหนที่จบด้วยสกอร์เสมอ 0-0 ตรงกันเป๊ะเสียด้วย เหลืออีกสถิติที่หลายคนจับตามอง คือ เจ้าภาพอังกฤษตกรอบรองชนะเลิศ ปี 1996 และเยอรมนีคว้าแชมป์ ในยูโรเวอร์ชั่น 2016
แต่ฝรั่งเศสจะตามรอยหรือไม่ ต้องลุ้นกันยาวๆ
