ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันรอบแรก ศึก ยูโร 2016 กันแล้ว ก็ได้เวลาตีโจทย์เรื่องการจัดอันดับตารางแต่ละกลุ่มเพื่อหาทีมเข้ารอบต่อไป
สำหรับทีมที่ชนะไปแล้ว 2 นัด ย่อมชัดเจนว่าได้ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ แต่เพียงแค่เข้ารอบอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ ยังจำเป็นต้องรู้ว่าทีมใดจะได้เข้าไปในอันดับเท่าไร เพื่อจัดสายแข่งขัน
ยิ่งยูโรหนนี้เพิ่มจำนวนจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม จากเดิมซึ่งเคยคิดคำนวณง่ายๆ ว่าทีมแชมป์กับรองแชมป์กลุ่มจะได้ผ่านเข้ารอบ ตอนนี้ต้องเพิ่มกฎเรื่องทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม จาก 6 กลุ่มเข้าไปด้วย
จึงได้เวลาที่เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องจัดอันดับทีมในแต่ละกลุ่มกรณีที่ทีมมีคะแนนเท่ากันตั้งแต่ 2 ทีมขึ้นไป ตามกฎที่ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) กำหนดไว้ก่อนการแข่งขัน ดังนี้
1.นับคะแนนจากแมตช์เฉพาะทีมที่มีแต้มเท่ากันพบกัน กรณีมี 2 ทีมคือดูผลเฮดทูเฮด หรือกรณี 3 ทีมคือมินิลีก (ถ้าผลเฮดทูเฮดของ 2 ทีมเสมอกันให้ข้ามไปที่ข้อ 5)
2.หากคะแนนมินิลีกเท่ากันให้จัดอันดับจากผลต่างประตูของมินิลีก
3.ถ้าผลต่างประตูเท่ากัน ให้ยึดจำนวนประตูยิงได้ภายในมินิลีก
4.กรณีที่มีทีมคะแนนเท่ากัน 3-4 ทีม และใช้กฎข้อ 1-3 แยกทีมใดทีมหนึ่งออกจากอีก 2-3 ทีมได้แล้ว ให้นำกฎข้อ 1-3 มาใช้กับทีมที่เหลืออีกครั้ง ยกตัวอย่าง ถ้าทีม A, B และ C มีคะแนนเท่ากัน แล้วใช้กฎข้อ 1-3 จนแยกทีม A ออกจากกลุ่มได้ ก็ให้พิจารณาผลเฮดทูเฮดระหว่างทีม B และ C ที่เหลืออยู่ หากยังเท่ากันอีก ให้ไปต่อที่ข้อ 5-9
5.เมื่อพิจารณามินิลีกหรือผลเฮดทูเฮดไม่เป็นผล ให้วัดจากผลต่างประตูของเกมเตะทั้งกลุ่ม
6.ถ้ายังเท่ากันให้ดูประตูยิงได้จากเกมทั้งกลุ่ม
7.หากทุกอย่างยังเท่ากันอีก ให้ไปพิจารณาผลแฟร์เพลย์ การได้ใบเหลืองใบแดงของทีมที่มีแต้มเท่ากันในการแข่งขันยูโร 2016 รอบสุดท้าย
8.เมื่อพิจารณาตามข้อ 1-8 แล้วก็ยังจัดอันดับไม่ได้ ให้ยึดค่าสัมประสิทธิ์ทีมชาติตามการจัดอันดับของยูฟ่า ซึ่งคำนวณจากผลงานรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010, 2014 และยูโร 2012 และแมตช์เพลย์ออฟและรอบสุดท้ายของยูโร 2012, 2016 และฟุตบอลโลก 2014
ทั้งนี้ ถ้า 2 ทีมที่มีแต้มเท่ากันและจำนวนประตูได้เสียเท่ากัน บังเอิญมาพบกันในนัดสุดท้ายของกลุ่ม โดยอีก 2 ทีมในกลุ่มไม่ได้มีแต้มเท่า 2 ทีมนี้ เมื่อเตะจนจบ 90 นาทีแล้วก็ยังเสมอกันอีก ให้ตัดสินด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ
เมื่อได้ทีมแชมป์และรองแชมป์เข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาพิจารณาอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของ 6 กลุ่ม ด้วยเงื่อนไข ดังนี้
1.เรียงตามคะแนนที่ได้
2.ถ้าคะแนนเท่ากันให้ยึดผลต่างประตู
3.หากผลต่างเท่ากันให้พิจารณาจากประตูที่ยิงได้
4.ถ้าคิดตามข้อ 1-3 แล้วยังเท่ากันก็ให้ไปดูที่ผลแฟร์เพลย์
5.สุดท้ายจึงยึดค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าเช่นเดียวกับการจัดอันดับรอบแบ่งกลุ่ม
มาถึงตรงนี้ก็น่าจะได้ 16 ทีมฟาดแข้งในรอบน็อกเอาต์เป็นที่เรียบร้อย!
