คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำสถิติด้วยการลงเล่นให้ทีมชาติ 128 นัด มากที่สุดแซงหน้า หลุยส์ ฟิโก้ ที่เคยทำไว้ 127 นัด แต่จากผลการแข่งขันคงเป็นนัดที่เจ้าตัวไม่อยากจดจำเท่าไหร่นัก
การพลาดจุดโทษในนาทีที่ 79 ทำให้ โปรตุเกส ผ่านมา 2 เกมยังไม่ชนะใคร และโอกาสในการเข้ารอบค่อนข้างสั่นคลอน
แถมยังชวดโอกาสทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ยิงในยูโร รอบสุดท้ายได้ 4 ครั้งติดต่อกัน
ทีมฝอยทอง ตั้งแต่ที่มีโรนัลโด้เข้ามา ไม่เคยพลาดการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่สักครั้ง
แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จสักที
มีเพียงครั้งเดียวที่ไปได้ไกลที่สุดคือการเข้ารอบรองชนะเลิศ ก่อนจะถูก กรีซ สร้างเทพนิยายไปได้
จากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก ที่ รีล มาดริด โรนัลโด้ต้องมาอยู่ในสภาพที่ทุกคนต้องพึ่งเขาแต่ผู้เดียวในการจบสกอร์
มองไปในรายชื่อแนวรุก ก็เหลือเพียง เอแดร์ คนเดียวที่เป็นกองหน้าธรรมชาติ ความกดดันจึงโถมเข้าหาโรนัลโด้แบบช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตามสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดกับโรนัลโด้คนเดียวเท่านั้น
กับทีมชาติ สวีเดน ของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่ลุ้นทำสถิติยิงในยูโร 4 ครั้งติดต่อกันเช่นเดียวกับโด้ แต่ก็มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์เช่นกัน จาก 2 นัดที่ผ่านมาสวีเดน เสมอ 1 แพ้ 1 แถมไม่สามารถสร้างโอกาสส่องประตูคู่แข่งได้สักครั้ง
1 ประตูที่ทำได้ มาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่งอีกด้วย
ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาอิบราฮิโมวิชยิงให้ ปารีส แซงต์แชร์แมง ไปถึง 50 ประตู จากการลงสนาม 51 นัด แต่พอมาเล่นในยูโร ยังแทบหาโอกาสสับไกไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในกรณีของโด้นั้น มีคนช่วยสร้างสรรค์เกมให้ เพียงแต่ในจังหวะสุดท้ายทั้งโด้และแนวรุกกลับไม่คมกันเอง
แต่ในส่วนของซลาตันนั้น เขาไม่มีกองกลางที่สร้างสรรค์เกมหรือสร้างโอกาสขึ้นมาให้ ทำให้แทบจะไม่มีโอกาสได้ยิงประตูสักครั้ง
ทั้งสองคนอาจจะเป็นนักเตะระดับโลก ประสบความสำเร็จเมื่ออยู่ในระดับสโมสรได้
แต่สุดท้ายแล้ว การเป็นนักเตะชั้นยอดคนเดียว ไม่สามารถแบกความหวังของทีมได้ทั้งหมด
เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เล่น 11 คน ไม่ใช่เล่นคนเดียว