“มิถุนายน” เดือนเทียบบารมี “โด้-เมสซี่”

ไม่ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิง รีล มาดริด กับ ลิโอเนล เมสซี่ โคตรตัวรุกจาก บาร์เซโลน่า ยอดนักเตะของโลกทั้งสองคนจะลงเตะรายการเดียวกันหรือไม่ การเปรียบเทียบก็ย่อมต้องเกิดขึ้นเสมอ เพราะทุกวันนี้ยังไม่เคยมีอะไรมาบอกได้ว่าสองคนนี้ใครเป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกกันแน่

ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโรและโคปา อเมริกา สับหว่างกันโดยตลอด เมื่อโรนัลโด้ร่วมทัพ โปรตุเกส ไปแข่งขันฟุตบอลโลก เมสซี่

ก็จะนำทัพ อาร์เจนติน่า ไปด้วยเช่นกัน ทำให้มีการเปรียบเทียบผลงานทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีการจับเอาผลงานของการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปที่ทั้งคู่ไปแข่งด้วย นั่นคือ โรนัลโด้ในยูโรและเมสซี่ในโคปา อเมริกา

ปกติแล้วยูโรจะแข่งขันคั่นกลางของฟุตบอลโลก คือ 2 ปีก่อนฟุตบอลโลกหนต่อไป ส่วนโคปาก่อนฟุตบอล 1 ปี แต่ความพิเศษในครั้งนี้ โคปาฉลองครบรอบ 100 ปี ทำให้มีการจัดฉลองวาระพิเศษนี้ ในชื่อว่า โคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ ที่สหรัฐอเมริกา มาช่วยดึงกระแสของยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

Advertisement

ถ้าเปรียบเทียบผลงานในสโมสรของทั้งคู่แล้ว การยิงประตู รางวัลส่วนตัว และแชมป์ต่างๆ ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยง แต่ถ้าผลงานทีมชาติในเดือนมิถุนายนที่สำคัญๆ ของหลายปีหลัง เมสซี่ดูดีกว่ามากทีเดียว

ฟุตบอลยูโร 2008 ระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน 2008 โรนัลโด้ยิงได้ 1 ประตู โปรตุเกสตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของ เยอรมนี ขณะที่ทัพฟ้าขาวของเมสซี่กรุยทางเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศโคปา อเมริกา 2007 ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน-15 กรกฎาคม 2007 แต่ต้าน บราซิล ไม่ไหว แพ้ไป 0-3 พลาดแชมป์อย่างเจ็บปวด แต่เมสซี่ยิงในทัวร์นาเมนต์ไป 2 ประตู

ถัดมาที่ฟุตบอลโลก 2010 ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน-11 กรกฎาคม 2010 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ที่ให้ทั้งคู่ปล่อยของเพื่อชิงความเป็นหนึ่งอย่างแท้จริง อาร์เจนตินาไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่แพ้เยอรมนีไปถึง 0-4 อย่างไรก็ตามผลงานยังดีกว่าโปรตุเกสที่ตกรอบ 16 ทีม ด้วยการแพ้ สเปน แชมป์ในปีนั้น และดูเหมือนว่าผลงานของดาวยิงรีล มาดริดจะดีกว่ากองหน้าบาร์ซ่าอยู่เล็กน้อย เพราะโรนัลโด้ยิงได้ 1 ลูก เมสซี่ตีนบอด ยิงไม่ได้สักประตู

Advertisement

ทั้งคู่กลับมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของทวีปบ้านเกิดตัวเองอีกครั้ง เมสซี่ลงเตะโคปา อเมริกา 2011 ระหว่างวันที่ 1-24 กรกฎาคม 2011 อาร์เจนติน่าตกรอบ 8 ทีม แพ้จุดโทษอุรุกวัย และเมสซี่ก็ยิงประตูไม่ได้อีกครั้ง ขณะที่เจ็ตโด้ลงเล่นในยูโร 2012 ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2012 โปรตุเกสไปได้ไกลขึ้น แต่ตกรอบตัดเชือก แพ้จุดโทษสเปน โด้คว้าดาวซัลโวร่วมด้วยผลงาน 3 ประตู

ยูโรครั้งนั้น แฟน เดนมาร์ก ตะโกนร้องเรียกชื่อเมสซี่ในแมตช์ที่ทีมรักฟัดกับทีมฝอยทอง จนนักข่าวถามถึงเรื่องนี้ โรนัลโด้ตอบด้วยอารมณ์ไม่พอใจว่า “คุณรู้มั้ยว่าช่วงนี้ของปีที่แล้ว เมสซี่เพิ่งตกรอบโคปาในบ้านเกิดของตัวเอง และเมสซี่ยิงประตูไม่ได้ด้วยนะ”

มาถึงฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-13 กรกฎาคม 2014 โปรตุเกสตกรอบแรก โรนัลโด้กดไปแค่เม็ดเดียว แต่เมสซี่นำทัพฟ้าขาวเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยิงไป 4 ประตู อาร์เจนติน่าพลาดแชมป์โลกไปแบบฉิวเฉียด จากประตูชัยของ มาริโอ เกิตเซ่ นักเตะเยอรมนี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ล่าสุด ในยูโร 2016 และโคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ ทั้งคู่ต่างทำสถิติใหม่ให้กับประเทศตัวเอง โรนัลโด้ลงเล่นนัดที่ 128 ในนามทีมชาติ มากที่สุดในประวัติศาสตร์เหนือ หลุยส์ ฟิโก้ ซุปเปอร์สตาร์รุ่นพี่ แต่โปรตุเกสทำได้แค่เสมอ ออสเตรีย 0-0 โรนัลโด้พลาดจุดโทษ และทีมอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ถ้านัดสุดท้ายของกลุ่มเอฟเอาชนะ ฮังการี ไม่ได้ โอกาสตกรอบมีสูงมากทีเดียว ส่วนเมสซี่ยิง 1 ประตูช่วยให้อาร์เจนติน่าชนะ เวเนซุเอลา 4-1 ผ่านเข้าตัดเชือกได้สำเร็จ พร้อมทั้งเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้อาร์เจนไตน์ ด้วยผลงาน 54 ประตู เทียบเท่า กาเบรียล บาติสตูต้า ยอดดาวยิงในตำนาน

แม้ว่าโรนัลโด้และเมสซี่จะยิ่งใหญ่ในการเป็นนักเตะระดับสโมสร แต่กลับไม่เคยได้แชมป์ระดับเมเจอร์ร่วมกับทีมชาติ (นอกจากโอลิมปิก 2008 ของเมสซี่) โปรตุเกสของโด้แพ้ กรีซ รอบชิงยูโร 2004 ในบ้านตัวเอง เมสซี่ เป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกและโคปา อเมริกา

โอกาสที่เมสซี่จะชนะในเดือนมิถุนายนของปีนี้น่าจะมีมากกว่า จุดนี้อาจจะเป็นแรงขับให้โรนัลโด้ปล่อยของในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เพื่อพาทีมทะยานเข้ารอบต่อไป และเพื่อไม่ให้น้อยหน้าคู่แข่งตลอดกาลของตัวเองก็ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image