กลายเป็นกำลังหลักของทัพ “มังกรแดง” เวลส์ ได้เต็มตัวสำหรับ อารอน แรมซีย์ มิดฟิลด์วัย 25 ปี ซึ่งล่าสุดพัง 1 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิงช่วยกันพาทีมถล่ม “หมีขาว” รัสเซีย 3-0 คว้าแชมป์กลุ่มบี พร้อมทะยานสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายในศึก “ยูโร 2016” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แรมซีย์พุ่งขึ้นมาติดทีมชาติเวลส์เมื่อปี 2008 และลงเล่นไปแล้ว 42 นัด ยิง 11 ประตู ซึ่งด้วยการเล่นสไตล์มิดฟิลด์บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ และยังเล่นตัวริมเส้นซ้าย-ขวาได้ ทำให้เขาเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่สามารถช่วยทีมได้ทุกเวลา นอกจากนี้แรมซีย์ยังเป็นเพื่อนซี้ มิก้า ชูนวลศรี ปราการหลังลูกครึ่งไทย-เวลส์ของทีมชาติไทยด้วย
มิดฟิลด์รายนี้เป็นเด็กปั้น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะน้อยที่สุดของสโมสร ทำให้ในปี 2008 อาร์เซนอล ทุ่มเงินกว่า 5 ล้านปอนด์ กระชากตัวไปร่วมทัพ
จุดหักเหในชีวิตค้าแข้งเกิดขึ้นเมื่อปี 2010 ในเกมที่อาร์เซนอลบุกเยือน สโต๊ค ซิตี้ ซึ่งแรมซีย์ถูก ไรอัน ชอว์ครอส เข้าปะทะหนักจนกระดูกขาหัก และไม่สามารถการันตีได้ว่าจะกลับโชว์ฟอร์มได้ดีเช่นเดิมหรือไม่
แต่เขาใช้เวลาพักรักษาตัวร่วมปีและสวมหัวใจนักสู้กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมด้วย จนกลายเป็นนักเตะกระดูกเหล็กของอาร์เซน่อล และทีมชาติเวลส์
ทัวร์นาเมนต์ระดับเมอร์ใหญ่ก่อนหน้านี้ แรมซีย์เคยเล่นให้ สหราชอาณาจักร ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ครั้งนั้นเขาลงเล่น 5 นัด ยิง 1 ประตู แต่พาทีมไปหยุดเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
ศึกยูโร 2016 แรมซีย์พาทีมเวลส์ทะลุเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แล้วเช่นกัน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการสวมคนละสีเสื้อ แต่เชื่อว่าเขาคงไม่ยอมปล่อยให้ทีมเวลส์ต้องยุติเส้นทางอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน…
