ตลอดชีวิตการค้าแข้งของนักเตะคนหนึ่งมีเรื่องให้จดจำมากมาย แต่สำหรับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าสวีเดนคงอยากจะลืมผลงานตัวเองในยูโร 2016 เพราะเป็นการอำลาทีมชาติแบบไม่ว่านักเตะคนไหนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ซลาตันประกาศเลิกรับใช้ทีมชาติหลังจบศึกยูโร 2016 และบอกให้โลกรู้เรื่องนี้ก่อนแมตช์กับ เบลเยียม ซึ่งจะชี้ชะตาว่าทีมไวกิ้งจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมหรือไม่ พร้อมทั้งเปรยว่า ไม่อยากให้แมตช์นี้เป็นแมตช์สุดท้ายของตัวเองกับทีมชาติ สวีเดน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้น สวีเดนแพ้ 0-1 ตกรอบแรก ยอดกองหน้าของประเทศไม่สามารถช่วยทีมได้ ยิงประตูไม่ได้ทั้ง 3 นัด ชวดทำสถิติยิงประตูในยูโร 4 หนติด และกลับบ้านเร็วแบบคาดไม่ถึง
ซลาตันเป็นนักเตะที่ถูกจดจำในความเป็นศิลปินลูกหนังมาตลอด มีคำพูดที่และพฤติกรรมสุดติสท์เฉพาะตัวเสมอ เช่นการที่เขาเปิดโทรทัศน์ไปดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 1994 รอบรองชนะเลิศ เมื่อ 22 ปีที่แล้ว นัดที่สวีเดนพบบราซิล ซลาตันไม่ได้ดูเพราะจะเชียร์ทีมบ้านเกิด แต่เพราะอยากดูทีมแซมบ้าต่างหาก
“ผมไม่เคยดูสวีเดน และไม่คิดจะดู ผมชอบบราซิลเพราะเป็นทีมที่มีความแตกต่าง” ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีความคิดแตกต่างจากชาวบ้านเช่นกัน
นักเตะที่มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองมัลโมเติบโตมาด้วยความคิดที่ว่า บางครั้งสวีเดนไม่ต้องการเขา ทำให้บ่อยครั้งเขาก็ไม่ได้ต้องการสวีเดนเหมือนกัน และเคยต้องถอยห่างจากทีมชาติมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกในปี 2008 ลาร์ส ลาเกอร์บัก กุนซือไวกิ้งในช่วงนั้นจับได้ว่าดาวยิงตัวเก่งหนีไปเที่ยวไนท์คลับหลายครั้ง ทำให้ตัดสินใจส่งซลาตันกลับบ้านก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือก ยูโร 2012 และหลังจากนั้นอีก 2 ปี ซลาตันประกาศไม่เล่นทีมชาติชั่วคราว เพราะสวีเดนไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2010
“การเล่นให้ทีมชาติเป็นเกียรติยศของผม แต่ที่ตัดสินใจไม่เล่น เพราะไม่มีแรงกระตุ้น การไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกหรือเล่นแมตช์สำคัญ ก็ไม่ควรต้องเสียพลังงานไปแบบไม่ควรทำ เพราะมันเป็นการทุ่มเทที่สูญเปล่าชัดๆ” พร้อมทั้งบอกว่า “ฟุตบอลโลกที่มีผม ไม่มีอะไรน่าดูหรอก”
แต่หลังจากนั้นเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และกลับมาเป็นกำลังสำคัญให้สวีเดนอีกครั้ง และครั้งนี้ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ยิงประตูมหัศจรรย์มากมายให้สวีเดน แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะพาทีมเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2014 ได้ แต่ก็สามารถนำทัพไวกิ้งเข้าไปเล่นยูโร 2016 และยังคงเป็นความหวังสูงสุดของคนทั้งประเทศในแง่ของฟุตบอล เพราะผลงาน 50 ประตู ใน 51 นัดกับ ปารีส แซงต์ แชร์แมง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเขายังไม่แก่เกินไปที่จะโชว์ความมหัศจรรย์ของตัวเองในยูโร
อย่างไรก็ตาม สวีเดนโบกมือลายูโร 2016 ไปตั้งแต่รอบแรก หมายถึงว่า ซลาตันหมดหน้าที่ในการเป็นนักเตะทีมชาติอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่หลังจบแมตช์แพ้เบลเยียม แต่ได้ทิ้งความยิ่งใหญ่ของตัวเองด้วยการเป็นดาวยิงสูงสุดของประเทศตลอดกาลที่ 62 ประตู จาก 116 นัด
“คำว่าเสียใจไม่เคยมีอยู่ในชีวิตผม มันมีแต่ความภูมิใจและความซาบซึ้งใจเท่านั้น เพราะผมเป็นแค่เด็กจากเมืองเล็กๆ ในมัลโม ที่ได้เป็นตัวแทนของชาติและได้เป็นกัปตันทีมด้วย ผมภูมิใจกับทุกความสำเร็จ และมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมมากมายในการรับใช้ชาติ ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นแรงผลักดันให้ผมประสบความสำเร็จ หลังจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ซลาตัน อิบราฮิโมวิชจะถือธงชาติสวีเดนติดตัวไปด้วยเสมอ”
ถ้าชีวิตของซลาตันเป็นนิทาน ก็คงเป็นนิทานผจญภัยที่มีสีสันและสนุกตรึงตราใจเด็กน้อยหลายคน ตราตรึงเสียจนเด็กน้อยอีกหลายคนอยากจะทำให้นิทานนี้เกิดเป็นเรื่องจริงได้อีกครั้งในอนาคต
