เซเลบออฟเดอะแมตช์ : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปลดล็อกสู่ดาวซัลโว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปเปอร์สตาร์ทีม “ฝอยทอง” โปรตุเกส กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในศึกยูโร 4 สมัยติดต่อกัน หลังจากระเบิดฟอร์มรัว 2 ประตูพาทีมไล่เจ๊า ฮังการี 3-3 พร้อมจบอันดับ 3 กลุ่มเอฟ และผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายหวุดหวิด

2 นัดแรกในศึกยูโร 2016 โรนัลโด้ออกอาการเครียดและกดดันมากเกินไปหวังพังตาข่ายแรกเพื่อจารึกสถิติครั้งสำคัญ จนยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกได้ และยิงไปชนเสาชนคาน แม้แต่ได้ลูกจุดโทษก็ยิงไปชนเสาแบบช็อกโลก จนกระทั่งมาคลายความกดดันทั้งหมดจาก 2 ประตูในนัดสุดท้ายรอบแรก

ย้อนกลับไปโรนัลโด้ยิงประตูแรกในศึกยูโร ปี 2000 ที่โปรตุเกสเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นยูโรครั้งแรกของเขาและเป็นนัดประเดิมสนามของโปรตุเกส แต่นัดนั้นพ่าย กรีซ 1-2 และโรนัลโด้ยิงตีไข่แตกได้ในช่วงท้ายเกม ก่อนที่โรนัลโด้จะยิงประตูพาทีมชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ทะลุเข้าชิงเป็นครั้งแรก แต่พ่ายต่อเทพนิยายกรีซ 0-1 อีกครั้ง

ถัดมาในศึกยูโร 2008 โรนัลโด้ยิงได้เพียง 1 ประตู และโปรตุเกสตกรอบ 8 ทีมหลังพ่ายเยอรมนี 2-3 ส่วนศึกยูโร 2012 สตาร์ดังแห่ง รีล มาดริด ซัด 3 ประตู พาทีมทะลุถึงรอบตัดเชือก แต่ดวลจุดโทษพ่าย สเปน 2-4 หลังเสมอกันในเวลา 0-0 จึงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

Advertisement

จากศึกยูโรทั้ง 4 สมัย โรนัลโด้ยิงไปแล้ว 8 ประตู โดยในศึกยูโร 2016 ครั้งนี้เขาได้ปลดล็อกควานหาตาข่ายได้สำเร็จแล้ว และหลังจากนี้เขาพร้อมเดินหน้าใส่เกียร์พังประตูพาทีมโปรตุเกสทะลุเข้าถึงรอบลึกๆ พร้อมกับหวังครองดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ให้ได้

และเหลืออีกเพียงประตูเดียวเขาจะก้าวไปเทียบสถิติดาวซัลโวตลอดกาลในศึกยูโรของ มิเชล พลาตินี่ นโปเลียนลูกหนังฝรั่งเศสที่เคยยิง 9 ประตูในยูโรเพียงสมัยเดียวเมื่อปี 1984

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image