ที่มา | คอลัมน์ สรรหา มาเล่า |
---|---|
ผู้เขียน | [email protected] |
เผยแพร่ |
สํานักข่าวเอเอฟพี รายงานมีผลการศึกษาใหม่ พบว่าทารกแรกเกิดที่ได้ดื่มน้ำนมแม่ครบ 6 เดือนแรก สามารถปรับตัวได้ดีเมื่อเข้าโรงเรียน และมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาน้อย เมื่อเทียบกับทารกที่ได้ดื่มน้ำนมจากอกแม่น้อยกว่า 6 เดือน
จากข่าวระบุว่า ผลการศึกษานี้ได้ทำสำรวจในประเทศแอฟริกาใต้ ในเด็กกว่า 1,500 คน ซึ่งพบความสัมพันธ์ เชื่อมโยงอย่างสูงระหว่างช่วงระยะที่แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กับสัญญาณของพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน เป็นปัญหาในเด็กอายุระหว่าง 7-11 ขวบ
ทั้งนี้ ในการศึกษาพบว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยน้ำนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรกครบตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาน้อยกว่าเด็กทารกที่ได้รับน้ำนมแม่น้อยกว่า 1 เดือน ถึง 56%
แทมเซ่น โรแชต จากสภาวิจัยมนุษยศาสตร์ ในเมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้นำทีมวิจัยในเรื่องนี้ ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลแคนาดา กล่าวถึงผลการศึกษาที่ได้ว่า “เป็นผลการศึกษาที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของช่วงระยะเวลาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว ว่าสามารถส่งผลต่อพัฒนาการหลายด้านของเด็กมากกว่าการศึกษาครั้งก่อนๆ”
ในการศึกษาดังกล่าว โรแชตยังเน้นย้ำว่า พฤติกรรมที่เป็นปัญหาในวัยเด็ก มีความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาสังคมเมื่อเด็กโตขึ้น อาทิ ปัญหาความรุนแรง และปัญหาอาชญากรรม อีกทั้งยังส่งผลต่อการมีปัญหาทางสุขภาพจิต และไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางการศึกษาด้วย
นอกจากนั้น ในผลการศึกษายังพบด้วยว่าเด็กเล็กที่ได้เข้าเดย์แคร์ หรือสถานรับเลี้ยงเด็กอย่างน้อย 1 ปี มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสูงขึ้นถึง 74% อาทิ สามารถทำให้เด็กรู้จักวางแผน มีสมาธิและจดจำคำแนะนำต่างๆ ได้ดี เพราะสมองจำเป็นต้องได้รับการฝึกทักษะเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กเล็กที่ได้รับการกระตุ้นจากที่บ้านอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจะมีความสามารถในการบริหาร จัดการสูงขึ้นราว 36%
อนึ่ง ในการศึกษายังมีการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมที่สามารถส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งพบว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ที่มีปัญหาด้านจิตใจหรือความเครียด มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาสูงขึ้น 2.5 เท่า
ขอบคุณภาพจาก https://commons.wikimedia.org