ดรีมทีม รอบแบ่งกลุ่ม “ยูโร 2016”

ฟุตบอลยูโร 2016 มาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายกันแล้ว แต่ก่อนจะไปลุ้นว่าใครจะกรุยทางเข้ารอบลึกกว่านี้ได้ มาดูกันว่าในรอบแบ่งกลุ่ม นักเตะที่ดีที่สุด 11 ตำแหน่งมีใครกันบ้าง

ผู้รักษาประตู : ไมเคิล แม็คโกเวิร์น (ไอร์แลนด์เหนือ)

ว่ากันว่านอกจากลูกยิงที่ทำได้ 2 ประตูของไอร์แลนด์เหนือแล้ว ปัจจัยที่ทำให้ทีมเล็กๆ ทีมนี้เข้ารอบ 16 ทีมได้นั้นมาจากการเซฟอุตลุดของแม็คโกเวิร์น โดยเฉพาะในแมตช์ที่ไอร์แลนด์เหนือแพ้เยอรมนี 0-1 เขาป้องกันลูกยิงแข้งอินทรีเหล็กได้ถึง 16 ครั้ง ถ้าไม่ใช่นายทวารคนนี้ ที มทหารเขียวขาวน่าจะโดนถลุงยับ และไม่สามารถใช้ผลต่างประตูได้-เสียเข้ารอบไปได้

แบ๊กขวา : ดาริโย เซอร์น่า (โครเอเชีย)

กัปตันโครเอเชียที่เพิ่งเสียพ่อไประหว่างทัวร์นาเมนต์ กัดฟันกลับมาช่วยทีมหลังเสร็จงานศพ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้น้อยลง คอยวิ่งขึ้นบุกและถอยลงมาเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมจนคว้าแชมป์กลุ่มได้อีกด้วย

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : แร็กนาร์ ซิกูร์ดส์สัน (ไอซ์แลนด์)

ADVERTISMENT

หยุดทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสรวมทั้ง

แนวรุกของออสเตรียและฮังการีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าซิกูร์ดส์สันเป็นหัวใจของแนวรับไอซ์แลนด์อย่างแท้จริงและมีข้อผิดพลาดน้อยมาก

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : เลโอนาร์โด โบนุชชี่ (อิตาลี)

นอกจากจะเป็นปราการป้องกันหลังบ้านให้ทีมอัซซูรี่อย่างเหนียวแน่นแล้ว เมื่อมีบอลอยู่กับเท้าโบนุชชี่จะกลายร่างเป็นเพลย์เมกเกอร์อีกคนของอิตาลี จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม

พาบอลไปลุ้นประตู ตัวอย่างมีให้เห็น คือ ลูกเปิดจากแดนหลังให้ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ หลุดเข้าไปยิงประตูขึ้นนำเบลเยียม 1-0

แบ๊กซ้าย : ร็อบบี้ เบรดี้ (ไอร์แลนด์)

เหมือนแบ๊กที่กุนซือทุกคนนิยมใช้ในทุกวันนี้ เล่นได้ดีทั้งเกมรับ เติมเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลงานชิ้นโบแดงที่ทำให้ติดโผนี้ คือ การโหม่งประตูชัยให้ไอร์แลนด์ชนะอิตาลี 1-0 และเข้ารอบ 16 ทีมมาได้นั่นเอง

มิดฟิลด์ : กรานิต ชาก้า (สวิตเซอร์แลนด์)

ห้องเครื่องสวิสจ่ายบอลสร้างโอกาสให้ทีมอย่างสม่ำเสมอ จนคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ 2 จาก 3 แมตช์ในกลุ่มเอ

มิดฟิลด์ : อันเดรส อิเนียสต้า (สเปน)

หนึ่งในนักเตะชุดแชมป์ยูโร 2 สมัยล่าสุดที่เหลืออยู่ในทีมและยังเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา โชว์ฟอร์มได้ดีในนัดที่สเปนชนะเช็กและตุรกี แถมยังคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ในนัดกับตุรกี ซึ่งเป็นครั้งที่ 9 แล้วที่อิเนียสต้าทำได้ในการแข่งขันยูโรและฟุตบอลโลกทุกครั้งรวมกัน

มิดฟิลด์ : อารอน แรมซี่ย์ (เวลส์)

มีความสำคัญกับทีมไม่ต่างจากที่เวลส์ต้องมี แกเร็ธ เบล แรมซี่คุมเกมรุกตรงกลางได้อย่างสุดยอด เล่นกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างเข้าขา แถม ยังแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมกดไปอีก 2 ประตู

มิดฟิลด์ : ดมิทรีย์ ปาเยต (ฝรั่งเศส)

กลายเป็นนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ไปทันทีหลังจากยิงประตูชัยสุดสวยให้ฝรั่งเศสชนะโรมาเนีย 2-1 แถมยังมายิงอีกลูกในนัดชนะแอลเบเนียได้อีก พร้อมทั้งสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นประตูได้ด้วย

กองหน้า : แกเร็ธ เบล (เวลส์)

3 ประตูใน 3 นัด เป็นฟรีคิก 2 ลูก ความไว ความคมและการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้โชว์ฟอร์มสุดยอดออกมาจนคว้าแชมป์กลุ่มบีมาได้ ถือว่าเบลโดดเด่นมากในยูโรหนนี้

กองหน้า : อัลบาโร่ โมราต้า (สเปน)

ก่อนมาแข่งขัน สเปนถูกวิจารณ์ว่าไม่มีกองหน้าตัวความหวัง แต่โมราต้าก็จัดการกระซวกคู่แข่งรวม 3 ประตู และนำดาวซัลโวร่วมอยู่ในตอนนี้

ตัวสำรอง ผู้รักษาประตู : ฮานเนส ฮัลดอร์สสัน (ไอซ์แลนด์) กองหลัง : เฌอโรม บัวเต็ง (เยอรมนี) บาลาซส์ ชูชาก (ฮังการี) กองกลาง : ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย) นานี่ (โปรตุเกส) อีวาน เปริชิช (โครเอเชีย) กองหน้า : โรเมอู ลูกาก(เบลเยียม)