กู้วิกฤต “หมีขาว” ภารกิจก่อนเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

รัสเซีย เป็นหนึ่งในทีมที่น่าผิดหวังในยูโรหนนี้ เพราะควานหาชัยชนะไม่เจอในรอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบไปแบบไม่มีอะไรให้หวัง และเป็นการร่วงรอบแรก 3 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ติดต่อกัน 3 ครั้ง คือ ฟุตบอลยูโร 2012 ฟุตบอลโลก 2014 และยูโรหนนี้ ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มรวม 9 นัด ชนะได้แค่นัดเดียว

เลโอนิด สลุตสกี้ กุนซือทีมหมีขาวยอมรับว่าตัวเองทำผลงานได้ย่ำแย่ ทั้งๆ ที่มีเวลาเตรียมทีมมากพอแล้วก็ตาม ถ้าคนอื่นมาทำทีมอาจจะได้แชมป์ไปแล้วก็ได้ แต่การได้เข้ารอบสุดท้ายยูโร 2016 ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของนักเตะทุกคน

สลุตสกี้ถูกวิจารณ์เรื่องการเลือกขุนพลรัสเซีย เพราะใช้นักเตะอย่าง เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ สองกองหลังวัยดึกที่ไม่น่าจะเอา แกเร็ธ เบล ดาวยิงความเร็วสูงของเวลส์อยู่

รวมทั้งการไม่เรียกตัว อเล็กซานเดอร์ แคร์ซาคอฟ ดาวยิงสูงสุดในทีมชาติมาติดทีม แต่ก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานกำลังสำคัญหลายคน อลัน ซาโกเยฟ จอมทัพตัวเก่ง เดนิส เชรีเชฟ ปีกตัวความหวัง และ อิกอร์ เดนิซอฟ ห้องเครื่องคนสำคัญ ถอนตัวไปก่อนยูโรจะเริ่ม

Advertisement

ผลงานตอนอุ่นเครื่องก่อนมาฝรั่งเศส รัสเซียแพ้ 4 จาก 6 นัด ซึ่งถือเป็นการสัญญาณเตือนถึงปัญหาก่อนลงแข่งรอบแบ่งกลุ่มแล้ว

“นักเตะเหล่านี้จะยังเป็นกำลังสำคัญในฟุตบอลโลก 2018 และน่าจะพัฒนาตัวเองได้หลังจากเจอความผิดหวังในยูโรหนนี้มาแล้ว” กุนซือผู้อกหักกล่าว

ความน่าเป็นห่วงของรัสเซีย คือ การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่นักเตะชุดยูโรอายุเฉลี่ย 28.83 ปี รออีก 2 ปีก็ 30 กว่าขวบกันไปแล้ว นี่คือโจทย์ใหญ่ของเฮดโค้ชคนใหม่ที่เข้ามารับหน้าที่

ฟุตบอลโลกเตะกันมาแล้ว 20 ครั้ง มีเพียงครั้งเดียวที่เจ้าภาพตกรอบแรก คือ ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ถ้าหมีขาวไม่อยากน้ำตาตกเป็นชาติที่สอง ก็ต้องเร่งแก้ไขปัญหาทั้งหมดตั้งแต่วันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image