ไอซ์แลนด์ สร้างประวัติศาสตร์ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก “ยูโร 2016” ด้วยการโค่น “สิงโตคำราม” อังกฤษ 2-1 ซึ่งต้องชื่นชมสปิริตของนักเตะไอซ์แลนด์ที่ร่วมกันสู้สุดใจ แต่ฮีโร่คนสำคัญคงต้องยกให้ โคลเบน ซิกธอร์สสัน ศูนย์หน้าวัย 26 ปี ซึ่งฉวยโอกาสจากความผิดพลาดเข้าไปซัดประตูชัยพาทีมบันทึกสถิติใหม่ในศึกชิงแชมป์ยุโรป
เส้นทางค้าแข้งของซิกธอร์สสันเริ่มกับ เอชเค ในลีกบ้านเกิด ซึ่งสมัยดาวรุ่งเขาเคยได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่อย่าง รีล มาดริด และ อาร์เซนอล แต่ตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกดัตช์กับ เอแซด อัร์คมาร์ และ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งทำให้ความฝันของเขากลายเป็นจริงที่ได้ร่วมงานกับยอดแข้งอย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ก่อนย้ายมาร่วมทีม นองส์ ในลีกเอิงของฝรั่งเศส จนถึงปัจจุบัน
ซิกธอร์สสันซัดประตูแรกได้ในเกมประเดิมสนามให้ไอซ์แลนด์ลับแข้งชนะ หมู่เกาะแฟโร 2-0 เมื่อปี 2010 แต่ประตูแรกในแมตช์ทางการเขาเป็นผู้ซัดชัยอัด ไซปรัส 1-0 ในศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือก ก่อนกลายเป็นแกนหลักของทีมในเวลาต่อมา
จากรอบคัดเลือกศึกยูโร 2016 ซิกธอร์สสันเป็นดาวยิงสำคัญพาทีมคว้าแชมป์กลุ่มผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยสถิติการยิงประตูของเขาขึ้นแท่นรองดาวซัลโวหลังลงเล่น 43 นัด ยิง 21 ประตู และเป็นรองแค่ ไอดูร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ดาวยิงจอมเก๋าเพียง 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งด้วยวัยแค่ 26 ปี ซิกธอร์สสันมีโอกาสพังสถิติ พร้อมขึ้นแท่นดาวซัลโวตลอดกาลของไอซ์แลนด์อีกด้วย
แต่ประตูสำคัญเขาเคยยิงให้ทีมขึ้นนำ “ตราไก่” ฝรั่งเศส 2-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2012 แต่สุดท้ายไอซ์แลนด์พลิกพ่าย 2-3 ซึ่งในศึกยูโร 2016 ซิกธอร์สสันมีโอกาสเผชิญหน้ากับทัพตราไก่อีกครั้งในรอบ 8 ทีม
และต้องจับตาดูกันว่าเขาจะพังประตูฝรั่งเศสได้อีกครั้ง รวมถึงไอซ์แลนด์จะเขย่าเวทีลูกหนังยุโรปได้อีกระลอกหรือไม่…
