มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 4 ก.ค.
ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 4 ม.ค.-29 มิ.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 12% จากต้นปีที่อยู่ระดับ 1,288.02 จุด ปรับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,442.66 จุด (29 มิ.ย. 59) ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (ณ 28 มิ.ย. 59) มีผู้บริหารและคู่สมรสของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทำรายการซื้อหลักทรัพย์จำนวนรวมกว่า 1,767 รายการ โดยมีจำนวนหุ้นรวมประมาณ 1,699.86 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 11,367.26 ล้านบาท
สำหรับผู้บริหาร บจ. ที่ซื้อหุ้นคืนมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งทยอยเก็บหุ้นของธุรกิจในเครือทั้ง บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) มูลค่ารวมกว่า 5,687.33 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ จำนวน 155.88 ล้านหุ้น มูลค่า 3,625.28 ล้านบาท และหุ้น บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) จำนวน 85.097 ล้านหุ้น มูลค่า 2,062.06 ล้านบาทรองลงมาได้แก่ ตระกูล “พรประภา” ซื้อหุ้น บมจ.ฐิติกร (TK), นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ซื้อหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC), นายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ซื้อหุ้น บมจ.บิ๊กคาเมร่า คอร์ปอร์เรชั่น (BIG) และตระกูล “ตั้งมติธรรม” ซื้อหุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI)
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย ว่า การซื้อหุ้นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนถือเป็นความสมัครใจ ซึ่งผู้บริหาร บจ.ส่วนใหญ่น่าจะมองว่า มูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับต่ำเกินไป หรือมั่นใจในทิศทางการลงทุน
ขณะที่การซื้อหุ้นคืนของผู้บริหาร บจ.จะต้องรายงานข้อมูลต่อ ก.ล.ต.อยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบการซื้อขายของผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหาร บจ.ดังกล่าว ทางด้านตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีหน่วยงานติดตามตรวจสอบ และหากพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจะดำเนินการส่งเรื่องให้ ก.ล.ต.พิจารณาต่อไป
