‘ไอซ์แลนด์’ วีรบุรุษในเทพนิยายที่เขียนไม่จบ

Livepic

ไอซ์แลนด์ ไม่สามารถสร้างเทพนิยายในยูโร 2016 หลังจากโดน “เจ้าภาพ” ฝรั่งเศส กระหน่ำยิง 5-2 แต่ไม่ได้ถือเป็นความผิดหวังของประชากรไอซ์แลนดิก 330,000 คน และกองเชียร์ทั่วโลกที่คอยให้กำลังใจอยู่ เพราะผลงานทั้งหมดทั้งมวลที่ 23 ขุนพล และทีมงานทุกคนร่วมแรงใจต่อสู้กันมา ก็ถือว่าเป็นการสร้างชื่อดินแดนแห่งแสงเหนือในวงการฟุตบอลระดับโลกได้แบบไม่มีที่ติแล้ว

ไมเคิล ฟาร์เบอร์ คอลัมนิสต์ของสปอร์ต อิลลัสเตรทเต็ด ได้ไปร่วมอยู่ในบรรยากาศที่ชาวไอซ์แลนด์กว่า 30,000 คนส่งกำลังใจเชียร์ทีมรักจากกรุงเรกยะวิก ที่เนินเขาอาร์นาร์ฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวไวกิ้งมาตั้งรกรากครั้งแรกหลังจากมาถึงไอซ์แลนด์ เมื่อ ค.ศ.874

เสียงร้อง “ฮู่” และการปรบมือเป็นจังหวะซึ่งเป็นเอกลักษณ์เชียร์บอลของพวกเขาเกิดขึ้นหลายครั้งในการชมถ่ายทอดสด และกึกก้องที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ สังเวียนแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่นักเตะไอซ์แลนด์กำลังห้ำหั่นกับเจ้าถิ่นอยู่ ซึ่งเอกลักษณ์นี้ดัดแปลงมาจากการร้องให้จังหวะของชาวไวกิ้งในการแจวเรือในอดีต

ฟาร์เบอร์ได้คุยกับคนท้องถิ่นที่อาร์นาร์ฮอลล์ทั้งก่อน ระหว่างและหลังการเชียร์ฟุตบอล อัทลี ไฮรนัสสัน คุณครูวัย 27 ปี บอกว่า การที่ทีมชาติไอซ์แลนด์โชว์ฟอร์มได้ดีในยูโรหนนี้สร้างความภูมิใจให้กับคนทั้งประเทศ ช่วงหลายปีหลังไอซ์แลนด์เจอแต่เรื่องแย่ๆ เศรษฐกิจมีปัญหาอย่างหนัก ธนาคารต้องปิดตัว ไหนจะเรื่องฉ้อโกงที่ถูกเผยแพร่ทางปานามา เปเปอร์

Advertisement

“ถ้าผมบอกใครต่อใครว่าผมมาจากไอซ์แลนด์ คนพวกนั้นอาจจะคิดว่าผมจะหลอกเงินเขาก็ได้ เพราะตอนนี้พวกเราดูเหมือนพวกไร้ความน่าเชื่อถือไปแล้ว” คุณครูเปิดใจ

การได้เตะยูโร รอบสุดท้ายก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของประเทศ เพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามารถเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลระดับเมเจอร์ได้ แต่เมื่อสร้างผลงานได้สูงแบบติดลมบน ความฮึกเหิมก็มาพร้อมกับความคาดหวัง แต่มันก็เกิดการเหยียดหยามจากนักเตะและแฟนบอลชาติคู่แข่งจากสิ่งที่ไอซ์แลนด์เป็น

ผลเสมอ 1-1 กับ โปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของยุค สร้างเซอร์ไพรส์ให้ทุกคน โรนัลโด้วิจารณ์นักเตะไอซ์แลนด์ว่า ดีใจเหมือนกับคว้าแชมป์ยูโรได้ ทั้งๆ ที่ไอซ์แลนด์เอาแต่ตั้งรับ และไม่น่าจะไปถึงไหนในยูโร

Advertisement

“คนไอซ์แลนด์ไม่พอใจกับคำพูดของโรนัลโด้อย่างมาก แต่เขาก็เป็นแค่คนโง่ๆ คนหนึ่งเท่านั้น”  โลกิ พัลส์สัน นักพยาธิวิทยาเล่าให้ฟาร์เบอร์ฟัง

แม้แต่การเขี่ยอังกฤษตกรอบ 16 ทีมไปได้ ก็มีคำพูดล้อเลียนว่า ทีมยักษ์ใหญ่แพ้ให้กับทีมที่มีกุนซือคู่เป็นหมอฟัน หรือที่ แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตกองหน้าสิงโตคำรามทวีตว่า “อังกฤษแพ้ทีมที่มีภูเขาไฟมากกว่านักเตะอาชีพเสียอีก” แต่นั่นก็เหมือนเป็นแรงผลักให้แฟนบอลเลือกไอซ์แลนด์เป็นทีมรักทีมที่สอง ต่อจากประเทศตัวเอง

อากัสต์ โพริสสัน พนักงานในร้านกาแฟบอกว่า “มันจะเยี่ยมยอดมาก ถ้าไอซ์แลนด์ชนะฝรั่งเศสได้”

ถึงแม้สิ่งนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้น เพราะเจ้าภาพทำได้ดีกว่านักเตะจากประเทศแห่งภูเขาไฟและแสงเหนือ แต่การจะบันทึกความสุขที่ได้พบเจอ หรือจะเรียกมันว่าเทพนิยายทั้งๆ ที่ไม่ได้แชมป์ คนไอซ์แลนด์ทั้งประเทศก็ไม่จำเป็นต้องไปขออนุญาตใครเพื่อจะทำมันขึ้นมา

2,300 ไมล์ ระยะห่างระหว่างเนินเขาอาร์นาร์ฮอลล์ ที่กรุงเรกยะวิก กับสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ สังเวียนแข่งยูโร กำลังจะสิ้นสุดลง เพราะไม่กี่อึดใจข้างหน้า ขุนพลประวัติศาสตร์ของประเทศเล็กๆ อย่างไอซ์แลนด์ จะกลับถึงบ้านเยี่ยงวีรบุรุษ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image