‘โปรตุเกส’ กับโอกาสลบคำสบประมาท มี ‘โชค’ แต่ไร้ ‘แชมป์’

โปรตุเกส ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยูโร 2016 แบบที่ไม่ค่อยได้รับคำชมนัก เพราะการเล่นในรอบแรกจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาไม่สามารถชนะใครในเกม 90 และ 120 นาทีได้เลย จนถูกเปรียบเทียบว่าเป็นทีมที่ใช้โชคผ่านเข้ารอบมามากกว่าฝีเท้า

ทีมฝอยทองที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก นานี่ ปีกที่คืนฟอร์มเก่งกลับมาได้แล้ว รวมทั้ง เรนาโต้ ซานเชส ห้องเครื่องดาวรุ่งที่ฝีเท้าจัดจ้านไม่แพ้รุ่นพี่ และแข้งอีกหลายคนที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่น่าจับตามองทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีปัญหาในแนวรับที่ใช้นักเตะอายุมากกว่า 30 ปีเป็นหัวใจสำคัญ **เปเป้** 33 ปี ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 38 ปี บรูโน่ อัลเวส 34 ปี โจเซ่ ฟอนเต้ 32 ปี และมักจะเสียประตูให้คู่แข่งแบบไม่น่าเสียอยู่หลายครั้ง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เฟร์นานโด ซานโตส กุนซือของทีมก็มีผลงานที่ดีในการคุมทีม 25 นัด พาทีมชนะได้ 15 นัด เสมอ 4 และแพ้ 6 แต่สถิติที่น่าสนใจ คือ 13 นัดหลังสุดในทัวร์นาเมนต์(ไม่นับรวมแมตช์อุ่นเครื่อง) โปรตุเกสไม่แพ้ใครเลย ชนะ 9 เสมอ 4 นัด และถ้าดูผลการแข่งขันแล้ว โปรตุเกสชนะคู่แข่ง 1 ประตูถึง 8 แมตช์ มีเพียงรอบรองชนะเลิศที่ชนะ เวลส์ 2-0 เป็นแมตช์เดียวที่ชนะมากกว่า 1 ลูก

“โปรตุเกสเป็นทีมที่วางแผนรุกและรับแยกออกจากกัน ผมรู้ดีว่าเราไม่ได้เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่เราก็ไม่ใช่ทีมที่ใครจะมาชนะได้ง่ายๆ” กุนซือชาวโปรตุกีสกล่าว

ทีมฝอยทองเคยเข้าชิงฟุตบอลระดับเมเจอร์เพียงหนเดียว คือ ยูโร 2004 ในบ้านตัวเอง แต่แพ้ กรีซ 0-1 แบบเจ็บปวด ทั้งๆ ที่มี หลุยส์ ฟิโก้ สตาร์จาก รีล มาดริด และนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดของโลกในขณะนั้น เดโก้ มิดฟิลด์เชิงสูงที่กำลังจะไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า รุย คอสต้า ห้องเครื่องจอมเทคนิค รวมทั้งโรนัลโด้ในวัย 18 ปีที่กำลังจะก้าวมาเป็นนักเตะเวิลด์คลาส

Advertisement

ซานโตสบอกว่า โปรตุเกสในวันนี้อาจจะมีนักเตะซุปเปอร์สตาร์ร่วมทีมอยู่น้อยกว่าในวันนั้น แต่ทุกคนเล่นกันเป็นทีม และไม่กลัวที่จะเปลี่ยนแผนการเล่นให้เหมาะกับสถานการณ์โดยให้ตัวหลักของทีมต้องไปนั่งดูเพื่อนข้างสนามบ้าง

หลังจากที่โปรตุเกสเสีย 3 ประตูในแมตช์ยันเสมอ ฮังการี 3-3 โจเซ่ ฟอนเต้, เซดริค โซอาเรส ได้ทำหน้าที่แทน คาร์วัลโญ่และ เวียรินญ่า ส่งเรนาโต้ ซานเชส มาลองสนาม และทุกคนทำผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด โดยเฉพาะเรนาโต้ ซานเชส ที่กลายมาเป็นซุปเปอร์สตาร์คนใหม่ของทีม ถึงขั้นว่าสื่อโปรตุเกสขนานนามทีมนี้ว่า “ทีมของโรนัลโด้, เรนาโต้ ซานเชส และเพื่อนอีก 9 คน”

ถึงแม้ว่าการเจอ “เจ้าภาพ” ฝรั่งเศส ในรอบชิงชนะเลิศจะเป็นเกมที่ยาก เพราะฝรั่งเศสเองก็ไม่แพ้ใครในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลอย่างยูโรและฟุตบอลโลกมา 32 ปีแล้ว แต่ รุย ปาทริซิโอ นายทวารของทีมก็คงไม่ยอมให้นักเตะตราไก่ส่งบอลเข้าประตูไปง่ายๆ เพราะในรอบน็อกเอาต์ 3 แมตช์ เขาเสียไปเพียง 1 ประตูเท่านั้น

“บนโลกนี้มักจะมีคนที่บอกว่า ข้ารู้จักฟุตบอลดีกว่าใครๆ หรือข้าฉลาดกว่าคนอื่น แต่จะพูดอะไรได้ล่ะ นอกจากจะท้าให้คนแบบนั้นเข้ามาเจอกับเราในรอบชิงชนะเลิศ” ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ส่งสาส์นท้ารบกับทีมคู่แข่ง

เสียงเชียร์ในสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ในรอบชิงชนะเลิศ โปรตุเกสคงแพ้ฝรั่งเศสขาดลอย แต่ถ้ายิงประตูในเกมมากกว่าได้ เสียงเชียร์และสถิติที่เจ้าภาพรักษามาอย่างยาวนาน ก็จะไร้ค่าไปในทันที นอกจากนั้นการถูกยกให้เป็นทีมที่มีโชคมากกว่าฝีเท้าจะถูกลืมไปเช่นกัน

แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องยอมรับให้ได้กับคำว่า “ทีมแห่งโชค แต่ยังไร้แชมป์”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image