‘รองโฆษก พปชร.’ ซัด ‘ปิยบุตร’ โหนเลือกตั้งท้องถิ่น หาพื้นที่การเมืองให้ตนเอง ระบุไม่สนปากท้องปชช.เดือดร้อนโควิด ชี้ ‘ก้าวไกล-ก้าวหน้า’ เข้าข่ายฮั้วลต.
เมื่้อวันที่ 17 มิถุนายน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ในหัวข้อ “ในวันที่ทำการเมืองนอกสภา” ผ่านเฟซบุ๊กเดอะอีสานเรคคอร์ด ในระหว่างลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา กล่าวถึงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นว่าเป็นเพียงท่อผ่านงบ ประกอบสร้างวาทกรรมว่ามีมายาคติในการเลือกตั้งแล้วได้มาเฟียท้องถิ่น มีวิธีคิดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นหมายถึงคอร์รัปชั่นนั้นว่า สังคมมองว่าความคิดเห็นของนายปิยบุตรเป็นการกล่าวหาผู้บริหารส่วนท้องถิ่นอย่าง “ไม่เป็นธรรม” ประดิษฐ์วาทกรรมเรื่องมาเฟียท้องถิ่นและคอร์รัปชั่นเพื่อ “ยกตนข่มท่าน” นายปิยบุตรเข้าใจการเมืองท้องถิ่นแบบนักวิชาการหอคอยงาช้างที่หมกมุ่นเพียงตำราต่างประเทศ ไม่ได้ลงพื้นที่ทำงานให้ประชาชนอย่างแท้จริง
“ความเป็นจริงคือ การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่นายปิยบุตรและพวกจ้องรื้อมาตลอด และจากความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายใต้การนำของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เห็นได้ชัดว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกหลักที่มีความพร้อมในการตอบสนองนโยบายรัฐได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นกลไกในการควบคุมและป้องกันโรค ช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจนขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างเป็นลำดับ และการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ต้องเป็นไปบนความพร้อมของทุกภาคส่วนและสถานการณ์ต่างๆ ประกอบกัน เพราะหากมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ออกมาจะทำให้ตำแหน่งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่างลง เกิดสุญญากาศในการตัดสินใจและการสั่งการต่างๆ อาจมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอนโดยขอเวลาพิจารณาว่าที่ไหนจะเลือกตั้งได้ก่อน” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าว
น.ส.ทิพานันกล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมา เกิดข้อกังขาต่อสังคมว่าการลงพื้นที่ทำงานทางการเมืองของอดีตพรรคอนาคตใหม่และคณะก้าวหน้าเกิดประโยชน์อะไรบ้างต่อประชาชน นอกเหนือจากการถูกใช้ประดิษฐ์วาทกรรมโจมตีแบบไม่รู้จริง ถูกสร้างภาพพื้นที่ในเชิงลบ ถูกใช้เป็นภาพเซลฟี่สร้างภาพให้กลุ่มการเมืองว่าได้รับคะแนนนิยม ในระยะเวลาที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนโดยเฉพาะจากวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เคยเห็นนายปิยบุตรและคณะก้าวหน้าออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตนเองมาลงชุมชน ทำงานเชิงพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ร้อนของประชาชน แต่พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแต่ยังไม่คืนสู่ภาวะปกติ แทนที่นายปิยบุตรจะลงพื้นที่ชุมชนและช่วยเหลือทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน นายปิยบุตรกลับเดินสายหาเสียงเพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองของกลุ่มตน คิดแต่รณรงค์การเลือกตั้งท้องถิ่น นายก อบจ. ที่คณะก้าวหน้าจะส่งผู้สมัครลงเท่านั้น ดังนั้นนายปิยบุตรควรหยุดกดดันรัฐบาล และหยุดเอาชีวิตและสุขภาพประชาชนมาเสี่ยงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง อย่าทำให้ความสำเร็จจากความทุ่มเทของรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ บุคลากรทางการแพทย์และความร่วมมือร่วมใจกันของประชาชนต้องสูญเปล่า ขอให้นายปิยบุตรใจเย็นๆ อย่าเพิ่งร้อนรนกระวนกระวายหรือต้องการหาพื้นที่ทางการเมืองของตนเองและพวก”
“นอกจากนายปิยบุตรจะต้องเพิ่มเติมในประเด็นความจริงใจในการช่วยเหลือทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจากการทำงานลงชุมชนพื้นที่แล้ว หากนายปิยบุตรที่อดีตเคยเป็นนักการเมืองระดับประเทศและจะมาทำงานการเมืองระดับท้องถิ่นก็ควรศึกษากฎหมายให้ถูกฉบับและถูกปี พ.ศ. ด้วย ได้แก่ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ยิ่งหากมีกรณีคณะก้าวหน้าจะส่งคนลงชิงเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วพรรคก้าวไกลจะไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น จะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ จะเข้าข่าย “ฮั้วเลือกตั้ง” โดยยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองให้ขาดอิสระโดยทางอ้อมหรือไม่ ไม่อย่างนั้นหากนายปิยบุตรและพรรคก้าวไกลทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายแล้วถูกลงโทษอีก ก็จะมาสร้างวาทกรรมว่าถูกกลั่นแกล้ง ถูกโบยตีด้วยความอยุติธรรมอีกไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น” รองโฆษกพรรค พปชร.กล่าว
