“จุรินทร์”ปิดห้องเคลียร์ใจลูกพรรค ที่เกาะเสม็ด เดินหน้าปชป.ไปนั่งในใจประชาชนอีกครั้ง ยันบิ๊กตู่ ไม่ส่งสัญญาณปรับครม. ย้ำยึดเงื่อนไขเดิมตร่วมรบ.
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่โรงแรมแกรนด์วิวรีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมสัมมนา ส.ส. และรัฐมนตรีของพรรค ว่า งานสัมมนาวันนี้ได้เตรียมการมานานแล้ว แต่เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 ส.ส.ต้องทำงานหนักและต้องลงพื้นที่จึงไม่มีโอกาสได้พบกับอย่างพร้อมหน้า จึงถือโอกาสนี้เป็นการพูดคุยกันแบบสบายๆ แล้วถือมาชาร์จแบตร่วมกันด้วย โดยในวันนี้จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในเรื่องทิศทางการนำพาพรรคไปข้างหน้าว่าจะทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์เข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงความขัดแย้งภายในพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าว แต่ข้อเท็จจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 19 ก.ค. พรรคจะมีการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประชุมใหญ่จะเป็นไปตามระเบียบวาระการประชุมที่กำหนดไว้ ส่วนการปฎิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีพรรคเราก็ได้มีการติดตามรวมทั้งส.ส.และสมาชิกด้วย แม้แต่ตัวรัฐมนตรีเองก็ต้องประเมินผลงานตัวเองเหมือนกัน ว่าที่ผ่านมาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีมีผลต่อภาพรวมของพรรค หากรัฐมนตรีทำงานดีมีผลงานก็ส่งผลไปถึงพรรคให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ส่วนที่ว่าพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ตนขอไม่ตอบเพราะไม่อยู่ในฐานะที่ตอบได้ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ที่กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน โดยจะต้องเป็นความเห็นจากที่ประชุมส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห)ร่วมกัน
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยังคงได้จำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีเท่าเดิม นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอไม่ตอบเพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่นายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯจะมีความคิดเห็นที่นอกเหนือไปจากที่เคยพูดคุยกันไว้ตอนร่วมรัฐบาลท่านก็จะแจ้งให้ทราบ ถ้าแจ้งให้พรรคทราบ พรรคก็จะได้มีการประชุมและแจ้งกลับไปยังนายกฯว่าประชาธิปัตย์มีความเห็นเป็นอย่างไร ซึ่งการปรับครม. ขึ้นอยู่กับนายกฯ แต่จนถึงขณะนี้นายกฯยังไม่ส่งสัญญาณใดๆมาหาตน
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ว่าพรรคพลังประชารัฐจะขอคืนกระทรวงเศรษฐกิจ จากพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ จะทำให้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องผ่านนายกฯ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเป็นผู้มาเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล โดยมีการเจราจาเงื่อนไขข้อตกลงที่ชัดเจน จนยอมรับเงื่อนไขและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเป็นข้อผูกพันกับคนทั้งประเทศแล้ว ฉะนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแจ้งให้ประชาธิปัตย์ทราบและเราก็จะกลับไปพิจารณา ทั้งนี้จำนวนตัวเลข ส.ส.ของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีผลในการเพิ่มหรือลดเก้าอี้รัฐมนตรีของแต่ละพรรคหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับนายกฯ และพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
