เดินหน้าชน : ‘เปิดใจ’รับฟัง : โดย สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

เฝ้ามองสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ยอมรับว่ารู้สึกกังวล กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนในอดีตในระยะเวลาอีกไม่นานนี้

จากประสบการณ์คนเคยมีบ้านอยู่ติดกับถนนราชดำเนิน นอนฟังเสียงปืน เสียงระเบิด เสียงรถถัง เสียงท็อปบู๊ต เสียงไฮด์ปาร์ก เสียงกรีดร้อง เสียงรถฉุกเฉิน มาตั้งแต่เด็ก

นับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลา, 6 ตุลา มาจนกระทั่งพฤษภาทมิฬ ยังไม่นับรวมเหตุการณ์ปฏิวัติ รัฐประหาร สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง หลายครั้งหลายหน จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสิ่งเหล่านี้จะสูญหายมลายสิ้นไปจากสังคมไทย

ทำให้อดนึกหวั่นใจไม่ได้ว่า “วงจรอุบาทว์” กำลังจะหมุนวนกลับมาอีกแล้วหรือนี่

Advertisement

สถานการณ์การชุมนุมที่มีกลุ่มนักศึกษาเป็นแกนหลักในขณะนี้

อยากขอร้องให้ฝ่ายรัฐบาลรับฟังอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่ใช่พวกจิงโจ้โล้สำเภา รับฟังแต่ไม่ได้ยิน หรือรับฟังเพื่อให้ดูว่าฟัง เพื่อให้ดูหล่อไปวันๆ เท่านั้น

เพราะการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง

Advertisement

แต่ครั้งนี้เป็นการเรียกร้องตามสิทธิในฐานะพลเมืองไทยอยู่ในประเทศนี้ เปรียบเหมือนคนในบ้านเดียวกัน

เมื่อคนจำนวนมากเกิดความรู้สึกว่า เหมือนถูกหลอก เฝ้าพร่ำบอกว่า เสียสละเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในบ้านเมือง มาเพื่อแก้ปัญหา มาเพื่อปฏิรูป มาแล้วจะอยู่ไม่นาน

แล้วยังไงล่ะ

เอาง่ายๆ อย่างล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกทีวีบอกกับประชาชนว่าจะบริหารงานแบบ “นิว นอร์มอล”

แล้วไหนล่ะ

ทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้ หากคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนจริง และที่สำคัญเพื่อประโยชน์ของพล.อ.ประยุทธ์เอง จะช่วยให้ลงจากอำนาจได้อย่างสวยงาม แบบ “ซอฟต์ แลนดิ้ง”

ก็ควรเร่งแก้รัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพราะต้นตอของปัญหาคือรัฐธรรมนูญ

ต้องยอมรับว่า รัฐธรรมนูญปี’60 ถูกออกแบบมาเพื่อให้อำนาจเก่ายังคงอยู่ อาจจะเพื่อป้องกันการเอาคืน หรือเพื่อให้บ้านเมืองสงบจริง สงบจนนิ่ง นิ่งจนบางคนถึงขั้นสลบเข้าขั้นโคม่าไปแล้วก็มี หรือไม่ ก็สุดจะคาดเดา

หลังจากแก้รัฐธรรมนูญแล้ว นายกรัฐมนตรีควรประกาศยุบสภา รีบคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว เป็นไปตามวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อย่าไปยึดติด หรือหลงเชื่อบรรดา “คุณห้อยคุณโหน” บรรดาที่ปรึกษาที่อยู่รอบข้าง คอยเชียร์ให้ใช้ “อำนาจ” มากนัก

ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพอมีทางออกอยู่ ควรจะรีบลงมือดำเนินการโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ เพราะนับจากนี้สถานการณ์จะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และจะทวีความเข้มข้นขึ้นแบบรายวัน จนกระทั่งอาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้า “มุมอับ” จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ในระยะเวลาไม่นานนี้

อย่าให้ถึงจุดนั้น

เมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ยุบสภาแล้ว ล้างไพ่ใหม่แล้วถ้าเกิด พล.อ.ประยุทธ์ยังคง “คัน” อยากลงทำงานการเมืองต่อไป ซึ่งก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยาก หากคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาตามวิธีที่ถูกต้อง เพราะในฐานะอยู่ในอำนาจมานาน และเกิดการเปลี่ยนกฎกติกาในขณะยังคงอยู่ในอำนาจ ย่อมมีความได้เปรียบคู่แข่งแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าจะลงสนามเลือกตั้งสู้กันแบบแฟร์ๆ

แต่ถ้าไม่สนใจทำงานการเมืองต่อไปก็จบ แยกย้ายกันไปบ้านใครบ้านมัน อย่างนี้สวยกว่ามั้ย

แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังคงมีทั้งวิธีคิดและวิธีปฏิบัติ ไม่ “นิว นอร์มอล” เหมือนที่คุยเอาไว้ละก็

เป็นห่วงว่าวงจรอุบาทว์ที่กังวลว่าจะเกิด อาจจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ นั่นหมายถึงว่า ทางลงของ พล.อ.ประยุทธ์จะกลายเป็น “เตรียมรับแรงกระแทก” อาจจะจบไม่สวยหรือไม่ ไม่มีใครรู้

เพราะตอนนี้กำลังมีความพยายามยัดเยียดข้อหาล้มล้างสถาบันให้ฝ่ายตรงข้าม ถือว่าเป็นสิ่งอันตรายอย่างยิ่ง

การใส่ร้ายโจมตี เพียงแค่ความเห็นไม่ตรงกันทางการเมือง โดยไม่กล้าที่จะ “เปิดใจ” รับฟังความคิดความเห็นที่แตกต่าง กำลังเกาะกินสังคมไทยอย่างรุนแรง

ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป คงคาดเดาได้ไม่ยากว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านของเราทุกคน

แล้วพวกเราจะยอมปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image