เมื่อวันที่ 15 กันยายน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมียนมา จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เปิดเผยว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตัวเด็กชายชาวเมียนมา อายุ 2 ขวบ เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากเด็ก และพี่สาว กับมารดาไปจากประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนไทย-เมียนมา (2) สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด เมื่อวันที่ 4 กันยายน และทั้ง 3 คนถูกกักกันเป็นเวลา 14 วันตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขเมียนมา ต่อมาเด็กเกิดอาการป่วยตัวร้อนสูง เมื่อวันที่ 10 กันยายน เจ้าหน้าที่จึงนำน้ำลายไปตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 วันที่ 13 กันยายน ซึ่งหลังจากพบเชื้อ จึงรีบสอบสวนทางมารดา และพี่สาว ทราบว่า ทั้ง 3 คน เดินทางไปจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่เมียนมาต้องตรวจสอบการสัมผัสระหว่างเด็กกับมารดา และพี่สาว และนำน้ำลายไปตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด -19 แต่ประการใด ขณะที่มีการสวนเพิ่ม และกักบริเวณเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดน และอาสาสมัครสาธารณสุขเมียนมาประจำจังหวัดเมียวดีด้วย ส่วนเด็กถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลผาอ่าง รัฐกะเหรี่ยงโดยมีมารดาถูกส่งไปที่โรงพยาบาลผาอ่างเพื่อให้แพทย์ดูแลด้วย และพี่สาวให้อยู่ที่โรงพยาบาลเมียวดี ตรงข้ามอ.แม่สอด
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมียนมา ได้ไปบ้านที่เด็ก และมารดา พี่สาวรวมทั้งญาติคนอื่นๆอาศัยแอยู่ และไปพบกับใครบ้างอย่างละเอียด ขณะที่มีรายงานข่าวจากทางการเมียนมาเมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 15 กันยายน 2563 (เวลาประเทศไทย) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวน 203 คน ผู้เสียชีวิต 35 คน ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 จำนวน 3,502 คน
