จาก “หมุดคณะราษฎร 2475” ที่หายไปจากลานพระบรมรูปทรงม้า ถึง “พื้นคอนกรีต” กลางสนามหลวง
ไปจนถึง “อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” ที่วงเวียนบางเขน กลายเป็น “ความสงสัย”ที่นำไปสู่การค้นหา
จากที่ไม่เคยสนใจใคร่รู้ หลายคนก็ได้จะได้รู้
นี่ต้องยกความดีให้แก่ “ผู้จุดประกาย” ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเด็กเยาวชนรุ่นลูกรุ่นหลานที่ลุกขึ้นมาทวงถามและท้าทายให้ “เปลี่ยนแปลง”
“อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” หรืออีกชื่อว่า “อนุสาวรีย์ปราบกบฏ” ที่วงเวียนบางเขน เป็นโบราณสถานที่คณะราษฎรจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกและบรรจุอัฐิผู้เสียชีวิตจากกรณีปราบ “กบฏบวรเดช” เมื่อปี 2476 ถูกรื้อถอนไปอย่างเงียบๆ
แม้แต่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบยังบอกว่า ไม่รู้ชะตากรรม !
ได้ความรู้จากหนังสือ “คณะราษฎร-ฉลองรัฐธรรมนูญ-ประวัติศาสตร์การเมืองหลัง 2475 ผ่าสถาปัตยกรรมอำนาจ” ของอาจารย์ชาตรี ประกิตนนทการ แห่งคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่จัดพิมพ์โดย “สำนักพิมพ์มติชน” อีกว่า ใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้นยังมี “วัดประชาธิปไตย”
“วัดประชาธิปไตย” ได้รับการออกแบบโดยพระพรหมพิจิตร สถาปนิกด้านสถาปัตยกรรมไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยนั้น
อาจารย์ชาตรีเขียนบรรยายเอาไว้ว่า วัดแห่งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากเพราะเป็นวัดแห่งแรกและแห่งเดียวที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พยายามทำให้เป็นวัดตัวอย่างในการรวมนิกายสงฆ์ไทย 2 นิกาย คือมหานิกายกับธรรมยุติกนิกายเข้าไว้ด้วยกัน แต่สุดท้าย “ทำไม่สำเร็จ”
มีการทำพิธีเปิด “วัดประชาธิปไตย” ในวันที่ 24 มิถุนายน 2485 โดยมี “พระยาพหลพลพยุหเสนา” อุปสมบทเป็นคนแรก
วัดแห่งนี้ไม่ได้ถูกทำให้ “หายไป” !
แต่มีการเปลี่ยนชื่อไปเป็น “วัดพระศรีมหาธาตุ” ตั้งอยู่ติดกับวงเวียนบางเขนอันแต่เดิมเป็นที่สถิตของ “อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ”
ที่วัดแห่งนี้ยังมี “พระศรีมหาธาตุเจดีย์” สถาปัตยกรรมไทยเครื่องคอนกรีตซึ่งภายในของเจดีย์มีการออกแบบให้มีช่องเอาไว้ 112 ช่องใช้บรรจุอัฐิบุคคลสำคัญของคณะราษฎร เช่น ปรีดี พนมยงค์ พระยาพหลพลพยุหเสนา จอมพล ป. พิบูลสงคราม นาวาเอกหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ พลโทประยูร ภมรมนตรี
โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปกรรมทั้งหลายเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมของผู้คนที่บอกให้รู้ประวัติความเป็นมา
ไม่ว่าจะนิยมชมชอบหรือไม่ชอบก็มี “คุณค่า”
หากไม่มี “วันนั้น” ในประวัติศาสตร์ ก็ไม่อาจมีสิทธิเสรีภาพเช่นในวันนี้ !?!!