ดีเปรสชั่นราอีเข้าไทย คืนนี้กระทบกรุงเทพฯ เตรียมรับมือฝนตกอีก3วัน

เวลา 15.00 น.วันที่ 13 กันยายน นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายอดิศักดิ์ ขันตี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. นายสงกรานต์ อักษร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และผู้เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมระบบการป้องกันน้ำท่วม กทม. ชั้น 6 อาคารศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) และหารือการเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนราอีที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและพื้นที่กรุงเทพฯ

นายอมรกล่าวว่า กทม.ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือพายุที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ โดยขณะนี้ได้พร่องน้ำในคลองสายหลักและพื้นที่แก้มลิงเพื่อรับน้ำ คลองหลักประกอบด้วย คลองแสนแสบ คลองผดุงกรุงเกษม และคลองดาวคะนอง ซึ่งปกติจะพร่องน้ำต่ำกว่า 0.70 เมตร (ม.) แต่หากฝนมีปริมาณมากก็จะลดระดับน้ำเพิ่มเป็นต่ำกว่า 1 ม. ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการเดินเรือในคลองแสนแสบบ้างโดยเฉพาะช่วงประตูน้ำ-ผ่านฟ้าฯ อาจทำให้ไม่สามารถเดินเรือได้ แต่ในคลองผดุงฯยังสามารถให้บริการเดินเรือได้ตามปกติ ส่วนแก้มลิงบึงหนองบอนพร่องน้ำลงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5 ม. จะสามารถรับน้ำได้เพิ่มประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) รวมถึงลดระดับน้ำในแก้มลิงบึงวารีภิรมย์เพื่อช่วยรับน้ำเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องสูบน้ำประจำจุดอ่อนน้ำท่วมขังหรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รวมถึงสำรองเครื่องสูบน้ำไว้กว่า 200 เครื่อง ส่วนในพื้นที่ฟันหลอบริเวณถนนทรงวาดและซอยสุขุมวิท 50 ได้เสริมแนวกระสอบกันน้ำหนุนเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ได้เตรียมกระสอบทรายไว้จำนวน 3 ล้านใบด้วย

นายอมรกล่าวอีกว่า กทม.ได้ประสานความร่วมกับจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ อาทิ พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ฯลฯ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฝนและน้ำเหนือด้วย ดังนั้น ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล ทั้งนี้ กทม.ได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำฝน น้ำเหนือ และแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้

ด้านนายสงกรานต์กล่าวว่า สำหรับพายุโซนร้อนมีทั้งหมด 3 ลูก ได้แก่ พายุราอี พายุเมอรันตี และพายุมาลากัส แต่จะมีเพียงลูกเดียวที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คือ พายุราอี ซึ่งปัจจุบันอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ จะเริ่มเข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้มีเมฆฝนปกคลุมทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว และคาดว่าคืนนี้จะส่งผลกระทบกับกรุงเทพฯ ส่วนในวันที่ 14 กันยายนนี้ คาดว่าพายุดีเปรสชั่นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้มีฝนเล็กน้อยเบาบางต่อเนื่องในพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นในวันที่ 15 กันยายน พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือต่อไป โดยกรุงเทพฯจะมีฝนน้อยลงตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image