อุดมศักดิ์ ภัคธนาพงศ์ ผู้สื่อข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์-เว็บไซต์ “มติชน” และวันดี รุจินาถ ช่างภาพเครือ “มติชน” รายงานข่าวการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 26 กันยายน เข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันที่มีลุ้นเหรียญมากที่สุดของการแข่งขัน 32 เหรียญทอง
มวยซิว8ทอง-‘สุรัตน์’พอใจตามเป้า
มวยไทยสมัครเล่น ชิง 16 ทอง ไทยผ่านเข้ารอบชิง 10 รุ่น คว้ามาได้ 8 เหรียญทอง ดังนี้ รุ่น 48 กก.ชาย พิษณุ ปิ่นทอง ชนะ ไบรอัน ที จากสิงคโปร์ 3-0 เสียง, รุ่น 51 กก.ชาย อานนท์ พลกระโทก ชนะ เยลามาน ซายาสซาตอฟ จากคาซัคสถาน 2-1 เสียง, รุ่น 54 กก.ชาย โชติชนินท์ โคกกระชาย ชนะ ด็อก แจยุน จากเกาหลีใต้ 2-1 เสียง, รุ่น 57 กก. ชาย วิวัฒน์ คําทา ชนะ อิชาน กาลิเยฟ จากคาซัคสถาน 3-0 เสียง, รุ่น 63.5 กก. ชาย ชลวิทย์ ปรีดาศักดิ์ ชนะน็อกยกแรก โว วาน ได จากเวียดนาม
รุ่น 48 กก.หญิง สุภิสรา คนหลัก ชนะ วู ฮอย ยาน จากฮ่องกง 3-0 เสียง, รุ่น 51 กก.หญิง นิติยากรณ์ ศรีสไล แพ้ บุย เย็น ลี จากเวียดนาม 0-3 เสียง, รุ่น 54 กก.หญิง หยาดรุ้ง เต๊ะหิรัญ ชนะ ตรัน ธิ จุค จากเวียดนาม 3-0 เสียง, รุ่น 57 กก.หญิง รัชฎาพร วิหารธรรมเม ชนะ ฟาม ธิ ธู จากเวียดนาม 3-0 เสียง, รุ่น 60 กก.หญิง เจนจิรา หว้านเครือ แพ้น็อกยกสอง บุย ธิ ไฮ เยน จากเวียดนาม
นายสุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมมวยไทย กล่าวว่า ทีมมวยไทยสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง แต่ยังมองว่านักชกไทยสามารถทำได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามพอใจในผลงานของนักกีฬาทุกคน หลังจากนี้ก็จะปล่อยให้พัก ก่อนจะเรียกตัวกลับมาเพื่อเตรียมแข่งซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย ในปีหน้าต่อไป
‘ทองสี-พันธ์ทิพา’ป้องแชมป์เปตอง
เปตองชิง 3 ทอง ประเภทหญิงคู่ ทองสี ตะมะโคตร และ พันธ์ทิพา วงศ์ชูเวช แชมป์เก่าจาก “ภูเก็ตเกมส์ 2014” สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยในรอบชิงชนะเลิศ สามารถเอาชนะ เลอ ธิ ธู ไม กับ เหวียน ธิ คัม เดวียน จากเวียดนาม 13-8 คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
ขณะที่ประเภทชายคู่ นายเถลิงเกียรติ์ ภู่สอาด กับศราวุฒิ ศรีบุญเพ็ง เอาชนะ อาเหม็ด ซาเบรี่ กับ ไซฟู มุสมิน จากมาเลเซีย 13-6 เก็บเพิ่มอีกหนึ่งทองให้ทัพไทยได้
ส่วนคู่ผสม สิทธิชัย กลิ่นเจริญกับ อุไรวรรณ หิรัญวงค์ ได้เหรียญทองแดง หลังพ่ายวันสมัย เนตรสวัสดิ์ กับ จันทร์สมร วงศ์สวัสดิ์ ในรอบตัดเชือก 12-13
หลังแข่งขัน ทองสี และพันธ์ทิพา กล่าวว่า จากที่เป็นแชมป์เก่าก็มีกดดันบ้าง แต่ก็ได้เตรียมการอย่างดีในทุกสถานการณ์ ซึ่งตอนที่แข่งมีฝนตกลงมา ถือว่าทำให้ไทยเล่นได้ง่ายมากกว่าคู่แข่ง จนสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
ด้าน ร.ต.ปรารภ ทองประเทศ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองฯ กล่าวว่า หลังจากนี้คงต้องมีการปรับแผนการเล่นเล็กน้อย เพราะว่าจากสภาพอากาศที่เจอ วันนี้ที่ได้มา 2 ทองก็เพราะประสบการณ์ด้วย หลังจากนี้เหลือ 6 รายการคือ เดี่ยว ชาย-หญิง, ชู้ตติ้ง ชาย-หญิง และทีมชาย-หญิง ก็ตั้งเป้าไว้ 3 ทองจากประเภททีม 2 ทอง และรายการที่เหลืออีก 1 ทอง
‘อารีรัตน์’ซิวทองแดงทุ่มน้ำหนัก
กรีฑาชิง 2 ทอง ไทยคว้าเพิ่มมาได้ 1 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันทุ่มน้ำหนักหญิง อารีรัตน์ อินทดิษฐ์ ทำสถิติ 14.36 เมตร ขณะที่เหรียญทองเป็นของ หลิว เซียงรอง จากจีน ทำสถิติได้ 16.06 เมตร และเหรียญเงิน ซุน หยู จากจีน 14.50 เมตร
ส่วนกระโดดไกล ชาย อันดับที่ 6 พิเชษฐ์ ท่าเรือรักษ์ ทำสถิติได้ 7.10 เมตร อันดับ 8 ศรัณย์ แสนบัวคำ ทำสถิติได้ 6.93 เมตร เหรียญทองเป็นของ ซอง เป่ยเฟ็ง จากจีน 7.53 เมตร
ด้านการแข่งขันวิ่ง 60 เมตรหญิง ขวัญฤทัย ปากดี เข้าเป็นอันดับที่ 1 ของฮีท 2 ด้วยเวลา 7.77 วินาที ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ส่วนวันวิสา กองทอง ได้อันดับ 4 ของฮีทแรก ด้วยเวลา 7.94 วินาที ไม่ผ่านเข้ารอบ ขณะที่วิ่ง 60 เมตรชาย บัณฑิต ช่วงไชย ทำเวลาได้ 7.09 วินาที ได้อันดับที่ 3 ของฮีทแรก ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป
‘แฝดเล็ก’ยังมั่นใจได้ตามเป้า
“แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกรีฑาไทย เปิดเผยว่า สภาพสนามต่างจากเมืองไทย แต่ได้เตรียมการมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบีชเกมส์เป็นกีฬาที่คาดเดายาก เพราะไม่รู้แต่ละชาติจะส่งใครมาบ้าง แต่ก็หวังคว้าให้ได้ 3 ทอง จากวิ่ง 60 เมตรหญิง และวิ่งผลัด ทั้งทีมชายกับทีมหญิง
ส่วนเรื่องที่ตัดชื่อ “มิ้ว” จิระพงษ์ มีนาพระ ลมกรดตัวเก่งของไทยออกนั้น แฝดเล็ก กล่าวปิดท้ายว่า เป็นไปตามกระบวนการทดสอบทั้งหมด ช่วงหลังทำได้ไม่ดี และดูไม่พร้อมสำหรับการแข่งขัน จึงต้องตัดชื่อเพื่อให้คนที่พร้อมที่สุดแข่งขัน
‘วู้ดบอล’ซิวทองหญิงคู่เพิ่ม
วู้ดบอลชายหาด ชิง 2 ชิงหรียญทอง ในประเภทนับจำนวนเกท หญิงคู่ คว้าเหรียญทองที่สองของทีมวู้ดบอลได้สำเร็จ หลังในรอบชิงชนะเลิศอมรทิพย์ ค้างคีรี กับ อนัฐออน เที่ยงอวน และคู่ของรัชนี ณ นคร กับ รพีภรณ์ รักที่พึ่ง เข้ามาชิงกันเอง ก่อนที่คู่ของรัชนีกับรพีภรณ์ เอาชนะไปได้ 3-2
ส่วนชายคู่ เพชรอนันต์ พรเสน่ห์ กับ นคร นวลรักษา เข้าชิงไปพ่ายให้กับ หวัง วานยี่ และเซียว ไชฮุง จากไต้หวัน 0-2 เกท ได้เพียงเหรียญเงิน
ผลกีฬาอื่นๆ ยูยิตสู ช่วงดึกวันที่ 25 กันยายน คว้าเพิ่มได้ 2 เหรียญเงินจาก สุวนันท์ บุญซ่อน ประเภทเนวาสซา (ทุ่ม) รุ่น 45 กก.หญิง และ โชว์ศิลปะการต่อสู้ หญิงคู่ กุลสตรี คำสร้อย กับ สุภวดี แก้วสระแสน โดยวันที่ 26 กันยายน มีชิงอีก 6 ทอง ไทยคว้ามาได้ 1 ทอง จาก โชว์ศิลปะการต่อสู้ ชายคู่ ธรรมนูญ โปไธสง-วารุฒ เนตรพงษ์, 1 เหรียญเงิน จาก เนวาสซ่า รุ่น 55 กก.หญิง ศิรามล ดีพุดซา และ 4 ทองแดง จาก เนวาสซ่า รุ่น 56 กก.ชาย พยุงศักดิ์ สิงห์ฉลาด, เนวาสซ่า รุ่น 62 กก.หญิง อรภา เสนาธรรม, เนวาสซ่า รุ่น 70 กก.หญิง อรอนงค์ แสงศิริโชค, โชว์ศิลปะการต่อสู้ ชายคู่ จิรายุทธ วุฒิวรรณพงศ์-จิรายุ วงศ์สวรรค์
ฟุตบอลประเดิมอัดลาว7-3
กีฬาประเภททีม รอบแรก ฟุตบอลชายหาด กลุ่มเอ ไทย ชนะ ลาว 7-3, บาสเกตบอล ทรีออนทรี ทีมหญิง กลุ่มบี ไทย ชนะเวียดนาม 21-7 ชนะ ภูฏาน 21-5 ทีมชาย กลุ่มบี ไทย ชนะ เวียดนาม 17-10, แฮนด์บอลชายหาด ทีมหญิง กลุ่มบี ไทย ชนะ อินเดีย 30-11, 18-9
“กอบกาญจน์”เร่งทำแผนทีมชาติระยะยาว
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา เปิดเผยว่า ต่อจากนี้ไปทุกหน่วยงานด้านกีฬาที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันเตรียมความพร้อม เเละวางเเผนในการพัฒนากีฬาไทยทุกๆ ด้าน โดยหลังจากที่ตนได้กลับจากโอลิมปิกเกมส์ที่บราซิล ทำให้ได้ทราบว่าหลายชาติมีการพัฒนาที่ก้าวไกลไปมากกว่าไทย ทำให้ต่อจากนี้เราต้องมองไปถึงการเตรียมทีมระยะยาวที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยในทีมชาติจะต้องมีนักกีฬาชุดเอ ชุดบี ชุดซี สลับสับเปลี่ยนกันไปเเข่งขันกีฬารายการต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงนักกีฬาทุกคนจะต้องพร้อมสำหรับ “โตเกียวเกมส์ 2020”
นางกอบกาญจน์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันในการเตรียมทีมไม่ใช่เพียงเเต่เตรียมเฉพาะนักกีฬา เเต่ต้องเตรียมทั้งกรรมการ เตรียมสร้างวิทยาศาสตร์กีฬา สร้างวินัย เเละโภชนาการ ต้องทำในหลายมิติควบคู่กันไป ซึ่งเเผนระยะยาว 4 ปี ตนเชื่อว่ากีฬาไทยทำได้ เเต่ก็ต้องดูว่าใช้งบจากกองทุนพัฒนากีฬาชาติ มาช่วยในเเผนพัฒนากีฬาระยะยาวดังกล่าวเป็นจำนวนเงินมากน้อยเท่าไหร่
ทัพไทยขึ้นนำเหรียญ’บีชเกมส์’
ทัพไทยโกยเพิ่ม 12 ทอง ทะยานขึ้นนำตารางเหรียญรวม โดยนำห่างเวียดนามอยู่ 6 เหรียญด้วยกัน
สรุปเหรียญ (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.ไทย (15-8-11) 2.เวียดนาม (9-12-18) 3.จีน (5-5-8) 4.จอร์แดน (3-4-2) 5.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (3-1-3) 6.อิหร่าน (3-1-2) 7.คาซัคสถาน (2-3-3) 8.มองโกเลีย (2-2-3) 9.ฟิลิปปินส์ (2-1-9) 10.ไต้หวัน (2-0-4)
