| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
วันนี้ดูข่าวจาก CNN ที่มีการสัมภาษณ์ นางสาวโมนิกา ลูวินสกี ก็รู้สึกประหลาดใจถึงขนาดเพ่งมองแล้วเพ่งมองอีกเพราะเวลาผ่านไปถึง 26 ปี จากที่เธออายุ 23 ปี มาเป็นอายุ 49 ปี ปรากฏว่าเธอสวยสง่าขึ้นอย่างน่าทึ่ง แบบว่าดูเธอสง่างามอย่างมั่นใจในตัวเองอย่างชัดแจ้ง ซึ่งแน่นอนที่ท่านผู้อ่านที่อยู่ในวัยตั้งแต่เจเนอเรชั่น Y (คนที่เกิดตั้งแต่ พ.ศ.2525) เป็นต้นไป ส่วนใหญ่คงไม่ทราบเรื่องของการอิมพีชเมนต์ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวระดับศตวรรษเลยทีเดียวถึงแม้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน จะไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาก็ตาม แต่เขาก็ถูกถอนตั๋วทนายฐานประพฤติผิดจริยธรรมที่ทำเลศเรื่องมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้อื่น แบบว่ามีความผิดนั่นแหละ
นางสาวโมนิกา ลูวินสกี เกิดเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2516 ที่เมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปเรียนจบปริญญาตรีสาขาจิตวิทยาจากวิทยาลัยลูวิสแอนด์คลาร์ก ในมลรัฐโอเรกอน แล้วสมัครเป็นนักศึกษาฝึกงานของทำเนียบขาวจึงย้ายมาอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ในระหว่างที่ โมนิกา ลูวินสกี ฝึกงานอยู่ในทำเนียบขาวในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 จนถึง
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2539 โมนิกาได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยในภายหลังทั้งเธอและประธานาธิบดีได้ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์โดยใช้ปากแต่ไม่ถึงขั้นร่วมเพศโดย อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้ยอมรับว่ามี “ความสัมพันธ์ไม่เหมาะสม” ในที่สุดทั้งๆ ที่ในระยะแรกอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่ได้ร่วมเพศกับโมนิกาโดยนัยว่ามีความสัมพันธ์
โดยใช้ปากแต่ไม่ถึงขั้นร่วมเพศ
นางสาวโมนิกา ลูวินสกี ถูกย้ายออกจากทำเนียบขาวช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2539 ไปประจำอยู่ที่ตึกเพนตากอน กระทรวงกลาโหมสหรัฐแทน เนื่องจากหัวหน้าของเธอเห็นว่าเธอใกล้ชิดกับประธานาธิบดีมากเกินไปกว่าสถานะนักศึกษาฝึกงาน แต่เธอยังมีความสัมพันธ์กับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน อีก 2 ครั้ง เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ และ 29 มีนาคม พ.ศ.2540 ในเดือนกันยายน พ.ศ.2540
อดีตเพื่อนร่วมงานของโมนิกา ลูวินสกี ชื่อ นางลินดา ทริปป์ ผู้เคยทำงานให้กับทั้งทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้เข้าใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอและได้แอบอัดเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกงานทำเนียบขาวที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่มีความยาวกว่า 22 ชั่วโมง มอบให้อัยการพิเศษสหรัฐเคนเนธ สตาร์ ซึ่งกำลังสืบสวนคดีทุจริตของคลินตันที่รู้จักกันในชื่อ คดีไวต์วอเตอร์ ทำให้อัยการ เคนเนธ สตาร์ ได้ขยายผลมาสนใจคดีชู้สาวอื่นๆ ของคลินตันในเวลาต่อมา และการตรวจสอบคลิปเสียงและพันธุกรรมจากชุดเดรสสีน้ำเงินของนางสาวลูวินสกีที่ไม่ได้ซัก ตามคำแนะนำทางโทรศัพท์ของนางลินดา ทริปป์ จึงพบพันธุกรรมของนายคลินตัน ซึ่งทำให้อดีตประธานาธิบดีคลินตันจำนนต่อหลักฐาน ต้องยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวลูวินสกีจริง แต่เป็นเพียงออรัลเซ็กซ์เท่านั้น
จากผลการสอบสวนที่พิสูจน์ได้ว่าอดีตประธานาธิบดีคลินตันโกหกต่อสาธารณชนจริง จึงนำไปสู่การอิมพีชเมนต์ อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ใน พ.ศ.2541 ในที่สุดวุฒิสมาชิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตได้ลงมติให้อดีตประธานาธิบดีคลินตันไม่มีความผิดและไม่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียง 55 ต่อ 45 เสียง
จากคดีลือลั่นไปทั่วโลก ทำให้ นางสาวโมนิกา ลูวินสกี ต้องเก็บเนื้อเก็บตัวไม่กล้าออกไปไหนได้แต่ถักนิตติ้งสงบสติอารมณ์ เพราะมีกองทัพนักข่าวคอยซุ่มอยู่ทั่วบริเวณละแวกบ้าน จนเวลาผ่านไปถึง 2 ปีเต็ม เธอจึงกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง โดยไปเป็นแขกรับเชิญออกรายการโทรทัศน์หลายครั้ง และร่วมเขียนหนังสือชีวประวัติบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัว ชื่อว่า “Monica’s Story” รวมถึงชีวิตในช่วงตอนที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดีคลินตัน ทำเงินให้แก่เธอหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เธอยังออกไลน์กระเป๋าของตัวเอง โดยดีไซน์เองและขายเองทางออนไลน์ จากนั้นก็ได้รับการชักชวนให้เป็นพรีเซ็นเตอร์รายการทีวีโปรแกรมลดความอ้วน ก่อนจะไปเฉิดฉายเป็นดาวสังคมในนครนิวยอร์ก และเป็นพิธีกรรายการทีวีดังหลายรายการ จนกระทั่งเธอตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านจิตวิทยาสังคม ที่ลอนดอนสคูลออฟ อีโคโนมิกส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เพื่อสามารถทำความเข้าใจและให้อภัยต่ออดีตของเธอเองและหันมารักและเอาใจใส่ดูแลตัวเธอเองเป็นอย่างดีซึ่งได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัดว่าเธองามสง่าเข้มแข็งและรู้เท่าทันโลกและชีวิตได้ดีกว่าเมื่อ 26 ปีที่แล้วอย่างลิบลับ
โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
