มาอีกชุด! McDonald’s-Coca-Cola-Pepsi-Starbucks-Unilever-L’Oreal ปิดธุรกิจ-ระงับการลงทุนในรัสเซีย

(แฟ้มภาพ) REUTERS

มาอีกชุด! McDonald’s-Coca-Cola-Pepsi-Starbucks-Unilever-L’Oreal ปิดธุรกิจ-ระงับการลงทุนในรัสเซีย

McDonald’s, Coca-Cola และ Starbucks 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของสหรัฐประกาศยุติการทำธุรกิจในรัสเซียแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะรัสเซียรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ McDonald’s ระบุว่า กำลังจะปิดร้านในเครือราว 850 แห่งในรัสเซียเป็นการชั่วคราว และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อใด อย่างไรก็ดีระหว่างนี้บริษัทยังจะจ่ายเงินให้กับพนักงานราว 62,000 คนในรัสเซียต่อไป

ผู้บริหาร McDonald’s ให้เหตุผลว่า การปิดร้านของบริษัทก็เพื่อตอบสนองต่อความทุกข์ยากของมนุษย์ที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น เพราะความขัดแย้งในยูเครนและวิกฤตด้านมนุษยธรรมในยุโรป ได้ก่อให้เกิดความทุกข์ยากที่ไม่อาจบรรยายได้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์

McDonald’s เริ่มเปิดกิจการในรัสเซียตั้งแต่ปี 1990 เมื่อสหภาพโซเวียตเริ่มเปิดตลาด ปัจจุบันบริษัทถือครองความเป็นเจ้าของร้านส่วนใหญ่ที่เปิดอยู่ในรัสเซีย เมื่อรวมกับร้านในประเทศยูเครน รายได้จากทั้ง 2 ประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9% ของรายรับของบริษัท และประมาณ 2% ของยอดขายทั่วโลก

Advertisement

ด้าน Coca-Cola ประกาศว่ากำลังระงับการดำเนินงานในรัสเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 2% ของรายได้ของบริษัท ขณะที่ Starbucks เผยว่า ร้านกาแฟที่จะปิดตัวลงมีอยู่ราว 100 แห่ง แต่บริษัท Alshaya Group ในคูเวต ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดร้านกาแฟ Starbucks ในรัสเซียจะยังคงจ่ายเงินให้กับพนักงานราว 2,000 คนต่อไป

ทั้งนี้ McDonald’s และ Coca-Cola เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักให้แสดงท่าทีต่อการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนยูเครนจากการรุกรานของรัสเซีย จนแฮชแท็ก #BoycottMcDonalds และ #BoycottCocaCola ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก่อนที่บริษัทจะประกาสระงับการทำธุรกิจในรัสเซียในที่สุด

ล่าสุด PepsiCo ก็ประกาศระงับการขายในรัสเซียแล้วเช่นกัน โดยนอกจากจะยุติการจำหน่าย Pepsi-Cola แล้ว ยังรวมถึงน้ำอัดลมทั้งหมดของบริษัทอย่าง 7up และ Mirinda แต่จะยังคงขายสินค้าที่จำเป็นอย่างนมผงสำหรับเด็กต่อไป

Advertisement

นอกจากนี้ Unilever ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมด้านเครื่องอุปโภคบริโภคสัญชาติอังกฤษ ก็ประกาศระงับการส่งออกและนำเข้าสินค้าทุกอย่างให้กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงระงับการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสื่อและเพื่อการโฆษณาด้วย

ซีอีโอของ Unilever ระบุว่า บริษัทจะไม่ลงทุนเพิ่มใดๆ ในรัสเซีย และรัสเซียจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการมีอยู่ของบริษัทในรัสเซียอีกด้วย อย่างไรก็ดีบริษัทจะยังคงส่งมอบอาหารที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่ผลิตในรัสเซีย ให้กับประชาชนรัสเซียต่อไป

ขณะที่ L’Oreal บริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ประกาศระงับการลงทุนใหม่ในรัสเซีย พร้อมกับปิดร้านของบริษัทในรัสเซียเป็นการชั่วคราว ทั้งยังประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานยูเครน ซึ่งทำให้ชาวยูเครนต้องได้รับทุกข์ทรมานอย่างมากด้วย

ทั้งสองบริษัทยังได้ประกาศระงับการทำธุรกิจในยูเครน เพราะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานและครอบครัวของพวกเขา และยังสัญญาว่าจะมอบเงิน 5 ล้านยูโร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับยูเครนด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image