| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุรนันท์ เวชชาชีวะ |
| เผยแพร่ |
ปีกว่าแล้ว “อาโนลด์ คาเร่-Arnaud Carre” กับ “ปุ๊ก-ศุภนิจ จัยวัฒน์” จับมือกันทำร้านขายเนื้อจนกลายเป็นร้านสเต๊กชื่อดัง “Arno’s Butcher & Eatery” ย่านนราธิวาสราชนครินทร์ (ซอย 20) ใครนิยมกินเนื้อวัว คุณภาพดี ราคาเหมาะสม ไม่มีชาร์จเว่อร์ ต้องไปกันทุกคน
ปีนี้ทั้งสองคนตัดสินใจทดลอง “ของเล่น” ใหม่ แต่ “ทำจริง” บนพื้นฐานเดิมคือใช้เนื้อวัวเป็นหลัก โดยเมื่อไม่กี่วันมานี้เองเปิด “Soft Opening” ร้านเบอร์เกอร์ “Arno’s Burgers & Beers” อยู่ไม่ไกลจากร้านแรก ริมถนนปากซอยนราธิวาส 15/1
รู้ข่าวปั๊บ เย็นนั้นไปเลย ฝ่ารถติดสุขุมวิทไปทางสาทรในค่ำวันศุกร์ เป็นบทเรียนราคาแพง คราวหน้ามารถไฟฟ้าแน่นอน
ร้านไม่ใหญ่ เป็น “Burger Joint” สไตล์อเมริกัน “ครัวเปิด” เห็น “กริล” ทอดเนื้อเบอร์เกอร์ และทุกๆ อย่างที่เป็นองค์ประกอบ มีบาร์นั่งขอบครัว และมีโต๊ะไม่กี่โต๊ะ คนไทยอาจคุ้นเคยรูปลักษณ์ของร้านเบอร์เกอร์ของ “แม็คโดนัลด์” หรือ “เบอร์เกอร์คิง” สั่งแล้วรอถือถาดไปนั่งที่โต๊ะ เป็น “จานด่วน – Fast Food” หรือไม่ก็ร้านประเภทนั่งหรูหน่อย เบอร์เกอร์ใหญ่ๆ มีส่วนประกอบหลายชั้น
ของอาโนลด์ที่นี่จะออก “บ้านๆ” แบบร้านเบอร์เกอร์แท้ๆ ที่อเมริกา ทำให้มีเสน่ห์และบรรยากาศเป็นกันเอง เพราะความจริงแล้วเบอร์เกอร์ต้องกินง่ายกินด้วยมือ ไม่ต้องส้อมมีด ไม่ต้อง “ดัดจริต” มาก ในร้านยังมีตู้แช่เบียร์ใหญ่ มองเห็นเบียร์หลากหลายชนิด ไม่ใช่เบียร์ที่มีตามท้องตลาดทั่วไป “อาโนลด์” บอกยิ้มๆ “เบอร์เกอร์คู่กับเบียร์” ดีที่สุด
ผมเห็นด้วยในหลักการ แล้วบอกว่า “ยกมาเลย” มีเบียร์อะไรบ้างไปสำรวจกันเองนะครับ ลงรูปและแนะนำผ่านสื่อไม่ได้ เดี๋ยว สสส. มาจับ แต่เบอร์เกอร์ไม่ผิด ไล่เรียงรายละเอียดได้!!
เมนูยัง “ชั่วคราว” แต่คงไม่ผิดเพี้ยนไปจากวันที่ไปลองชิมมาก นอกจากอาจมีเมนูใหม่ๆ เพราะอาโนลด์เป็นคนชอบทดลอง จับโน่นใส่นี่ จนกลายเป็นอาหารจานเด็ดได้ ใครแวะเวียนไป ต้องสำรวจเมนูให้ครบ และถามไถ่พนักงานได้
เบอร์เกอร์ใช้เนื้อ Dry Age ซึ่งเป็นเทคนิคความลับของอาโนลด์ แบบเดียวกับที่ทำให้สเต๊กของเขานุ่มอร่อย ใครถามอะไรอาโนลด์เขาพร้อมเล่าหมด แต่ถ้าขอเข้าไปดูที่เก็บเนื้อ และกระบวนการ “Aging” บอกได้เลยว่า “ยาก” แหม…เชฟทุกคนย่อมมีความลับ ใครไปถามสูตรอาหารร้านไหนก็จะได้คำตอบกว้างๆ ไม่มีใครบอก “สูตรลับ” แน่นอน
“The Carnivore” ที่แปลว่า “สัตว์กินเนื้อ” ใช้เนื้อบด 300 กรัม เบคอน มะเขือเทศ ผักกาด ส่วนขนมปัง Bun ปิ้ง อาโนลด์บอกว่าทำเอง ครับคนหลายคนคิดว่าเบอร์เกอร์ที่อร่อยอยู่ที่เนื้อตรงกลางอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้ว “ขนมปัง” ต้องไม่ “ยุ่ย” หรือ “แข็ง” หรือ “หนา” เกินไป และต้องรองรับไม่ให้ไส้ในทะลักออกมา กัดกินได้บนถึงล่างในคำเดียว
เนื้อได้ที่ ชุ่มฉ่ำ “Juicy” ขนมปังดี ใหญ่ไปนิดหนึ่ง ไม่กล้ากินหมด เพราะอยากลองอีกหลายตัว อาโนลด์บอกว่า สไตล์ “คาลิเฟอร์เนีย” จะใช้เนื้อหนักน้อยลง คือใช้ประมาณ 130 กรัม ส่วนสไตล์นิวยอร์กนั้นใช้เนื้อประมาณ 200 กรัม เรียกว่า เลือกความอิ่มได้
“Steak a Cheval” เป็นเบอร์เกอร์กับไข่ดาว Sunny Side Up และ “The Arno” ใส่ตับเป็ด Foie Gras รอให้ตับละลายเข้ากับเนื้อ เปลี่ยนรสชาติเบอร์เกอร์ไปอีกแบบผมชอบ ใครมีโอกาสลองดูครับ ไม่ดีจริงอาโนลด์ไม่ใส่ชื่อตัวเองลงไปแน่
ใครไม่กินเนื้อวัว มีเบอร์เกอร์หมู “The Spicy Pork” และเบอร์เกอร์ผัก “The Vegetarian” พร้อมด้วยสลัดหลายเมนู ที่อร่อยกินไม่หยุดคือ “เฟรนช์ฟรายส์” รับรองต้องติดใจ ที่พลาดไม่ได้อีกเมนู คือ Hot Dog ไส้กรอกใหญ่ หนำใจ
กินจนอิ่ม วันรุ่งขึ้น เช้าจรดเย็น กินอะไร
ไม่ลงไปอีกหนึ่งวันเต็ม!!
