บทนำ : เป็นหน้าที่นายกฯ

บทนำวันพฤหัสบดีที่28กันยายน2566 : เป็นหน้าที่นายกฯ

นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้ช่วยเหลือรัฐบาลในการบริหารงานมานาน ได้มองภาพรวมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายหลังเริ่มบริหารราชการแผ่นดินว่า โดยบุคลิกของนายเศรษฐา โดยเฉพาะการไหว้แสดงให้เห็นถึงนิสัยใจคอน่าจะไปในทางที่ดี สังเกตเห็นความสุภาพอ่อนโยน ถ่อมตน นายกฯเป็นคนตัวสูง กิริยาการไหว้ หรือรับไหว้จะเห็นว่ามีความสุภาพ อ่อนน้อม โค้งต่ำทุกครั้ง หากนายกฯพนมมือไหว้อยู่แค่หน้าอกก็จะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ ข่มกันอยู่ และคำพูดคำจาก็ถนอมน้ำใจคนฟัง ผิดจากสมัยการหาเสียง แต่เมื่อมาถึงเวลานี้นายกฯพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกหลายอย่าง อีกหน่อยอาจจะทนไม่ได้ก็ได้ แต่ขณะนี้ยังทนได้อยู่ คิดว่าน่าจะไปได้

นายวิษณุยังบอกอีกว่า รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนนโยบายที่เคยสัญญาไว้ เพียงแต่ต้องอาศัยเวลา โดยการหาเสียงจะไม่ได้มีการพูดเงื่อนเวลา แต่เมื่อเข้ามาทำจริงก็รู้ว่าติดขัด และรัฐบาลต้องรู้ว่ามีการติดขัด ตัว P 4 ตัว คือ P1 Power อยากทำ แต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ เหตุที่ไม่มีอำนาจเพราะติดข้อกฎหมาย P2 Public budget อยากทำ มีอำนาจแต่ติดที่งบประมาณ P3 Personnel ติดที่บุคลากร อยากทำแต่ไม่มีคนที่มีความรู้เรื่องนั้นๆ เช่น เรื่องดิจิทัลทั้งหลาย และ P4 Public opinion ติดที่ความเห็นประชาชน มีเงิน มีงบประมาณและมีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงมีบุคลากรที่จะทำ แต่ประชาชนยังไม่ยอมรับจึงยังทำไม่ได้ ฉะนั้น จะต้องเห็นใจรัฐบาลในทุกรัฐบาลที่จะเจอสภาพ 4P นี้

คำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุบ่งบอกถึงอุปสรรคการบริหารราชการแผ่นดินที่หลายรัฐบาลไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่คิด แต่ก็ยังมีอีกหลายรัฐบาลที่สามารถสร้างผลงานได้แม้จะเผชิญหน้ากับสภาพ 4P การบ่งบอกถึงอุปสรรคดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความสำคัญของนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาลที่ไม่ใช่ใครๆ ก็เป็นได้ แต่ต้องมีความตั้งใจ มีเป้าหมาย มีกลยุทธ์ และมีผู้ช่วยเหลือ ซึ่งก็คือคณะรัฐมนตรี ข้าราชการและหน่วยงาน พรรคการเมือง และอื่นๆ ที่เชื่อมั่นในรัฐบาล และพร้อมร่วมผลักดันผลงานให้เกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image