เฟทโก้ ชี้หุ้นไทยมีโอกาสกลับมาคึกคักปลายปีนี้ นักลงทุนอย่าเพิ่งถอดใจ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ทรงตัวได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งดัชนีหุ้นไทยอยู่ช่วงระดับ 1,300-1,400 จุด ถือว่าเป็นช่วงที่กำลังปรับตัว เพราะตลาดหุ้นเอเชียได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีน รวมถึงเศรษฐกิจโลกผันผวนเป็นระยะๆ แต่อยากให้นักลงทุนดูถึงเรื่องศักยภาพ และโอกาสในอนาคต หากหุ้นที่ถืออยู่เป็นหุ้นที่คิดว่าจะมีศักยภาพในอนาคตต่อไป และสามารถทำรายได้ต่อไปได้ อยากแนะนำให้ถือหุ้นดังกล่าวต่อไป
“สำหรับผมที่เป็นนักลงทุนเหมือนกัน มีหุ้นหลายตัวที่ลดลงมาแต่ก็คิดว่าจะลงทุนเพิ่มและยังถือต่อไป เพราะหุ้นที่ถืออยู่คิดว่ามีอนาคตจากธุรกิจจะกลับมาคึกคักมากขึ้น ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะคิดว่าช่วงปีถัดไป ตัวของรายได้จะกลับมา”นายกอบศักดิ์กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ปีที่ผ่านมา หุ้นไทยตกเป็นเรื่องของผลประกอบการของธุรกิจในด้านกำไรลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2567 ประเมินภาคการท่องเที่ยวที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากนักท่องเที่ยวจีนทยอยกลับเข้าไทย และช่วงปลายปีจะดีขึ้น รวมถึงจะมีการลงทุนจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เป็นช่วงสำคัญคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ จะทำให้เกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงสนับสนุนให้การส่งออกของไทยกลับมาดีขึ้นช่วงปล่ยปีนี้เช่นกัน และช่วยภาคการท่องเที่ยวดีขึ้น และที่สำคัญตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศจะดีในช่วงนี้
“เมื่อรวมเหตุผลหลายอย่างคิดว่าพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีของเมืองไทยและอย่าเพิ่งถอดใจ โดยเรื่องความผันผวนถ้าคิดว่ามั่นใจในหุ้นของบริษัทที่ถืออยู่และคืดว่าผลประกอบการในอนาคตจะกลับมาก็อาจเป็นการลงทุนที่ดี“นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเศรษฐกิจไทยในอนาคตขึ้นอยู่กับภาคเอกชน เพราะเอกชนไทยดี และเข้มแข็ง ฐานะใช้ได้ และไม่สุ่มเสี่ยงจนเกินไป รวมถึงสถาบันการเงินไทยเข้มแข็ง เหล่านี้สะท้อนว่าตัวธุรกิจไทยน้าจะยืนหยัดกับแรงกดดันต่างๆ ได้ดี และสามารถพลิกฟื้นกลับมาได้
เมื่อเจอเศรษฐกิจที่โตเร็งเกินไป ฮึกเหิมเกินไป ในระยะยาวจะจบด้วยปัญหาที่ตามมา แต่ประเทศไทยมีความระมัดระวังตัวพอสมควร ทั้งภาคการเงินและบริษัท หากไปดูทั้ง 2 ภาคส่วนมีความเข้มแข็ง จึงเป็นสัญญาณว่าต่อให้เศรษฐกิจโลกย่ำแย่ เอเชียมีปัญหา แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไปแล้วจะฟื้นตัวกลับมาได้รวดเร็ว
“อยากให้นักลงทุนดูพื้นฐานของบริษัทและเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสไปข้างหน้าได้ดี จะนำไปสู่โอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐ ขึ้นมาสูง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี อินเดียก็มีโอกาสลงทุนที่ดี สำหรับจีนยังกังวลใจ และต้องใช้เวลา เพราะเกิดปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์“นายกอบศักดิ์ กล่าว
