เกษตรกรโชว์เทคนิคเลี้ยง ‘ปลาทองฮอลันดาหัววุ้น’ ปลื้มตลาดส่งออกคึกคัก
มติชนฉบับนี้ จะพาไปชมความสำเร็จของการเลี้ยงปลาสวยงามสามารถส่งออกไปจำหน่ายทั้งในและตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ จนได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้ประจำปี 2568 ของ นายศักดิ์ชัย และ นางเนินหูย ตันอริยะมีศิริกุล สองสามีภรรยา ที่ได้ยึดอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามหลากหลายสายพันธุ์ ด้วยประสบการณ์การเลี้ยงที่ยาวนานกว่า 20 ปี
ในพื้นที่กว่า 30 ไร่ บริเวณหมู่ 4 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในนาม Sakchai Farm แบ่งพื้นที่การเลี้ยงเริ่มจากบ่อดินขึงด้วยตาข่ายล้อมรอบ เพื่อป้องกันศัตรูมารบกวน การเลี้ยงมีทั้งลักษณะเป็นทั้งบ่อดินและบ่อซีเมนต์ มีหลายรุ่น เมื่อได้ขนาดจึงจับขายส่งลูกค้า ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ แถบเอเชีย และยุโรป
นายศักดิ์ชัย ตันอริยะมีศิริกุล เจ้าของ Sakchai Farm กล่าวว่า ได้ยึดอาชีพการเลี้ยงปลาสวยงามตั้งแต่ปี 2540 หรือประมาณ 26 ปีที่แล้ว ส่วนใหญ่สายพันธุ์ที่โดดเด่นจะเป็นสายพันธุ์ฮอลันดาหัววุ้น เช่น สามสี แพนด้า ปัจจุบันได้เริ่มพัฒนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่จำหน่ายไปต่างประเทศ 80-90 เปอร์เซ็นต์ เป็นเกรด A เกรด 2A และยังมีปลาเกรดรอง ราคาตั้งแต่ 500-2,000 บาท การเลี้ยงไม่ยาก คนที่ไม่มีความรู้ก็สามารถเลี้ยงได้ โดยเจ้าหน้าที่กรมประมงจะมาให้ความรู้เรื่องโรคของปลา การส่งเสริมคุณภาพปลาให้สามารถส่งออกต่างประเทศได้ ซึ่งครอบครัวรู้สึกภาคภูมิใจกับการได้รับโล่รางวัลพระราชทานเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 2568 ถือเป็นความสำเร็จที่สูงสุดของครอบครัว ที่สุดในชีวิต
นางเนินหูย ตันอริยะมีศิริกุล ภรรยาเจ้าของฟาร์ม กล่าวว่า การเลี้ยงถ้าเป็นบ่อลูกปลาจะปล่อยเลี้ยงประมาณบ่อละ 800 ตัว แต่ถ้าเป็นบ่อขุนปลาใหญ่ปล่อยประมาณ 500 ตัว มีพื้นที่เลี้ยงประมาณ 32 ไร่ ส่วนมากเป็นสายพันธุ์ฮอลันดากับพันธุ์หัวสิงห์ ปลาทองสายพันธุ์ริวกิ้น โดยพันธุ์ฮอลันดาจะมีลักษณะมีครีบและหางยาว ถ้าพันธุ์ริวกิ้นจะมีลักษณะกระโดงยก และหัวจะไม่มีวุ้น แต่ถ้าเป็นพันธุ์หัวสิงห์จะมีหัววุ้นและมีเขี้ยว หลังไม่มีกระโดง หางสั้น สายพันธุ์ที่ตลาดนิยมคือ เป็นพันธุ์ฮอลันดาหัววุ้น กับหัวสิงห์ ส่วนพันธุ์ริวกิ้นเป็นพันธุ์ปลาเกรดสูงยากมาก คนทำน้อย ตลาดส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังเป็นประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศแถบเอเชีย และยุโรป ราคาจะเป็นผู้กำหนดเองตามเกรด เช่น เกรด 3A 2A เกรด A เกรด B ส่วนเกรด C จะส่งตลาดในประเทศ อย่างปลาทองเคยขายได้ราคาสูงสุดตัวละ 15,000 บาท
นายอำนาจ จันขาวขำ ประมงจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรมีการขึ้นทะเบียนฟาร์ม จะช่วยให้เกษตรกรสามารถที่จะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบของกรมประมงไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคระบาด หากมีโครงการส่งเสริมเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนฟาร์มไว้ก็จะได้รับการส่งเสริมเป็นอันดับแรก เช่น การรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ การเอาองค์ความรู้มาถ่ายทอดเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์ การทำมาตรฐาน GAP ส่วนภาพรวมตอนนี้ของราชบุรีนั้นถือว่าเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เพราะมีพื้นที่การเลี้ยงปลาสวยงามมากที่สุดในประเทศ แต่จำนวนฟาร์มอาจจะน้อยกว่า จ.นครปฐม ส่วนนครปฐมจะเน้นการเลี้ยงปลากัดเป็นหลัก จะมีการเลี้ยงในพื้นที่ไม่มากนัก แต่ของราชบุรีอันดับ 1 คือปลาทอง มีเกษตรกรที่เลี้ยงจะใช้พื้นที่เยอะและมีการเลี้ยงมากที่สุด จึงถือว่าเป็นเมืองหลวงของการเลี้ยงปลาสวยงาม
ส่วนฟาร์มแห่งนี้มีการส่งเสริมให้ขึ้นทะเบียนฟาร์มตั้งแต่ 20 กว่าปีที่ผ่านมา เป็นเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่น มีความก้าวหน้าและขยายผลการประกอบอาชีพเลี้ยงปลาขึ้นมาเรื่อยๆ จนขณะนี้ถือเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศได้ จึงนำมาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ จนปีนี้ได้รับรางวัลที่ 1 ของประเทศในวันพืชมงคลปี 2568
นายกุณฑล ปูรณวัฒนกุล ประธานเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ ประเทศไทย กล่าวว่า ได้พยายามส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว พยายามมุ่งมั่นและส่งเสริมผู้ประกอบการ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว เชิญคนมาท่องเที่ยว มาศึกษาชมปลาสวยงาม จะทำให้เกิดไอเดีย เกิดองค์ความรู้นำไปพัฒนาต่อยอด ไม่ว่าจะเป็นการนำไปเลี้ยงเอง หรือการสร้างงาน สร้างอาชีพในอนาคตต่อไปได้ มาที่นี่จะได้เจอเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาสวยงาม เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการทำจริงของเกษตรกร สิ่งเหล่านี้ถ้าผู้ที่มาดูงานสนใจชอบ สามารถนำไปเลี้ยงต่อยอด เช่น การนำปลาไปตกแต่งร้านกาแฟ หรือร้านค้าต่างๆ ให้เกิดความสวยงาม หรือนำไปต่อยอดทำธุรกิจในอนาคตได้แน่นอน
สำหรับการเลี้ยงแต่ละบ่อ จะปล่อยลูกปลาที่คลอดออกมามีอายุได้ประมาณ 2 เดือนลงบ่อเลี้ยง ในพื้นที่แต่ละบ่อจะต้องคลุมตาข่ายเพื่อป้องกันศัตรูอย่างแมลง นก ปู หอย ปลาไหล และสัตว์อื่นๆ เข้ามากินปลา มีการให้อาหารวันละ 3 มื้อ เลี้ยงประมาณ 5 เดือน โดยจะมีเทคนิคการเลี้ยงคือการปล่อยลูกปลาไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป เพื่อจะช่วยให้ปลามีการเจริญเติบโตที่ไว มีขนาด 3.5-4 นิ้ว สามารถจับส่งขายลูกค้าได้
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้ามาศึกษาดูงานการเลี้ยงได้ที่ฟาร์ม เบอร์ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 09-8503-7414 หรือเพจ Sakchai Farm Goldfish Premium