การแข่งขันแบดมินตันระดับกรังด์ปรีซ์โกลด์ “เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2017” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวม 120,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านบาท ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เป็นรอบชิงชนะเลิศ
ประเภทหญิงเดี่ยว “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ แชมป์เก่าเมื่อปี 2013 มือ 8 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ลงแข่งขันพบ “น้องครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ รองแชมป์เก่าปี 2013 และรองแชมป์ปีก่อน ซึ่งเป็นมือ 13 ของโลก และมือวางอันดับ 4 ซึ่งถือเป็นการเข้ามาชิงกันเองครั้งที่สอง หลังจากครั้งแรกคู่นี้เคยชิงกันเมื่อปี 2013 และรัชนกชนะ 2-1 เกม
แมตช์นี้ในเกมแรกบุศนันทน์ตีเสียเองบ่อยครั้ง ส่วนรัชนกตบเก็บแต้มเด็ดขาดชนะไปก่อน 21-18 เกมสองน้องเมย์ตีช็อตไปเองจนถูกน้องครีมแซงนำ 5-4 และครีมตบฟันแต้มทิ้งห่างเอาชนะ 21-12 ทำให้เสมอกัน 1-1 เกม ต้องตัดสินในเกมสุดท้าย ปรากฏว่า น้องเมย์เอาชนะชนะ 21-16 สรุปรวมรัชนกชนะ 2-1 เกม 21-18, 12-21, 21-16 ทำให้น้องเมย์คว้าแชมป์สมัยที่ 2 พร้อมครองถ้วยพระราชทาน และเป็นการคว้าแชมป์แรกของน้องเมย์ในปีนี้ด้วย ส่วนน้องครีมได้รองแชมป์เป็นสมัยที่ 3
หลังการแข่งขัน น้องเมย์ กล่าวกว่า เกมนี้ถือว่าเล่นได้ดี แต่มีผิดจังหวะไปบางครั้ง โดยเกมค่อนข้างสูสีกัน และยอมรับว่าน้องครีมมีจิตใจสู้ ซึ่งก็ดีใจที่คว้าแชมป์สมัยที่ 2 มาครองได้ อย่างไรก็ตาม วงการแบดมินตันเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างมาก และก็มีคนมาสนใจให้กำลังใจเชียร์กันเป็นจำนวนมาก ทำให้นักแบดมินตันไทยทุกคนก็อยากจะพัฒนาตัวเอง เพื่อทำผลงานให้ดี
น้องเมย์กล่าวอีกว่า เป้าหมายต่อไปนั้น ในรายการซุปเปอร์ซีรีส์ก็จะทำผลงานทะลุผ่านเข้ารอบลึกกว่ารอบ 8 คนสุดท้าย ส่วนเป้าหมายใหญ่ปีนี้คือ รายการชิงแชมป์โลก ซึ่งเมย์จะคุยกับ “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เรื่องรูปแบบเกมว่าตรงไหนยังไม่ดี และจะต้องพัฒนาต่อไป ส่วนกระแสที่ว่าเมย์ไม่มีความมั่นใจในการแข่งขันนั้น ขอบอกว่าเมย์เล่นตามฟอร์มของตัวเอง และมีจิตใจสู้ตลอด ซึ่งก็หวังจะคว้าแชมป์โลกให้ได้อีกครั้ง และก้าวไปเป็นมืออันดับ 1 โลกต่อไป
ด้านคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวว่า ต้องแสดงความยินดีกับซุปเปอร์สตาร์หญิงเดี่ยวทั้ง 2 คน ซึ่งเมย์ก็รักษามาตรฐานระดับโลก ส่วนครีมก็มีพัฒนาการขึ้นมากมาย โดยทั้ง 2 สาวจะเป็นกำลังสำคัญให้ทีมหญิงไทยชุดทำศึกอูเบอร์คัพต่อไปในปีหน้า
“ทั้ง 2 สาวซุปเปอร์สตาร์หญิงเดี่ยวถือว่ามีส่วนทำให้ประชาชนชาวไทยให้ความสนใจเข้ามาเชียร์กันอย่างสนุกสนานในรายการนี้ การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ก็เป็นการแสดงออกถึงศักยภาพของสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ซึ่งเราก็ได้รับคำชมจากสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ (บีดับเบิลยูเอฟ) และเราก็จะพัฒนาต่อไปเพื่อรับงานใหญ่ในปีหน้าคือ ยกระดับเป็นรายการซุปเปอร์ซีรีส์เป็นครั้งแรก รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพโธมัสคัพ และอูเบอร์คัพด้วย” คุณหญิงปัทมากล่าว
ด้านผลประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ “เบสท์” ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม และ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 42 ของโลก แพ้ เกรย์เซีย โปลี และเอพริยานี่ ราฮายู คู่มือวางอันดับ 5 จากอินโดนีเซีย 0-2 เกม 12-21, 12-21
