แบงก์รัฐผนึกกำลังช่วยเอสเอ็มอี ตั้งเป้าปล่อยกู้ 3.15 หมื่นล.ภายในปีนี้

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในโครงการสินเชื่อพิเศษเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอีตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยมี บสย.ค้ำประกัน วงเงินปล่อยสินเชื่อรวม 31,500 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีกว่า 8,000 ราย วางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อในวงเงินดังกล่าวแล้วเสร็จภายในปี 2560 นี้

นายชาติชาย กล่าวว่า ในแต่ละธนาคารออกผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีในส่วนออมสินรับวงเงินค้ำประกันจากบสย.มา 12,000 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์สนับสนุนคือ โครงการสินเชื่อหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องเพิ่มเครดิตการค้า โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถนำเงินไปผลิตสินค้าหรือก่อสร้าง และสำหรับลูกหนี้การค้าหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเอสเอ็มอีดีเวอร์ อัตราดอกเบี้ย 4% ในปีแรก สามารถใช้บสย.ค้ำประกัน ฟรีค่าธรรมเนียม 7% ตลอดระยะเวลา 4 ปี

ด้านนายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยเตรียมออกสินเชื่อสนับสนุนวงเงินค้ำประกัน 12,000 ล้านบาท ผ่าน 4 แคมเปญ คือ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 4 ปีแรกรวม 7% คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6% ต่อปีเป็นระยะเวลา 6 เดือน ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้ลูกค้าเอสเอ็มอีเพิ่ม 20% โดยสามารถใช้บสย.ค้ำประกัน 100%

นายพยง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยยังจัดสินเชื่อกรุงไทยช่วยเอสเอ็มอี 4.0 สำหรับกลุ่มที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร สามารถใช้บสย.ค้ำประกัน 100% อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5%ต่อปี รวมถึงสินเชื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกรรมการค้ากลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 4.4%ต่อปี

Advertisement

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า ธนาคารมีสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน วงเงิน 7,200 ล้านบาท เพื่อยกระดับผู้ประกอบการในชุมชนและภูมิภาคในการปรับปรุงการดำเนินกิจการ รวมทั้งเสริมสภาพคล่อง เน้นในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวชุมชน หรือตลาดต้องชม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านหนูณิชย์ติดดาว รถจำหน่ายอาหาร และผู้ประกอบการธุรกิจที่มีการเก็บสต็อคสินค้า ผลผลิตทางการเกษตรเพื่อจำหน่ายให้ธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจเฟรนไชส์ กู้ได้สูงสุด 100% บุคคลธรรมดากู้ได้ 2 ล้านบาท ถ้ามีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) หรือมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานรัฐกู้ได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท นิติบุคคลกู้ได้ 15 ล้านบาท

ด้านนายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน หรือพีจีเอสระยะที่ 6 ปรับปรุง เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ภายใต้เงื่อนไขใหม่ ที่สร้างแรงจูงใจให้กับธนาคารที่ร่วมโครงการปล่อยสินเชื่อได้มั่นใจขึ้น โดยรัฐบาล และ สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการช่วยรับภาระค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการ 4 ปีแรก รวม 7% และบสย.เพิ่มสัดส่วนค่าประกันชดเชยให้สถาบันการเงินเพิ่มขึ้นจาก 23.75% เป็น 30% ดังนั้น จึงมั่นใจว่าวงเงินค้ำประกันที่ยังเหลืออยู่จะหมดภายในปีนี้

“บสย.คาดว่าจะส่งผลในเชิงเศรษฐกิจตลอดครึ่งปีหลัง สามารถช่วยให้เอสเอ็มอีได้รับสินเชื่อรวมกว่า 27,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินประมาณ 136,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มรวมประมาณ 108,000 คนและสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 371,000 ล้านบาท” นายนิธิศ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image