ตูนิเซียแสบส่งท้าย พลิกชนะแชมป์เก่า ฝรั่งเศส 1-0 แต่ไม่พอเข้ารอบ 16 ทีม

REUTERS/Marko Djurica

ตูนิเซียแสบส่งท้าย พลิกชนะแชมป์เก่า ฝรั่งเศส 1-0 แต่ไม่พอเข้ารอบ 16 ทีม

ศึก “ฟุตบอลโลก 2022” ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของกลุ่มดี เตะพร้อมกัน 2 สนาม ออสเตรเลีย พบ เดนมาร์ก และตูนิเซีย พบ ฝรั่งเศส ปรากฏว่าตูนิเซียพลิกชนะแชมป์เก่า ฝรั่งเศส 1-0 แต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

สถานการณ์ของกลุ่มนี้ ฝรั่งเศสการันตีเข้ารอบแล้ว แค่เสมอก็จะคว้าแชมป์กลุ่ม ขณะที่อีก 3 ทีมต่างยังมีลุ้นเข้ารอบ ออสเตรเลียมี 3 แต้ม ต้องการชัยชนะ หรือถ้าเสมอต้องลุ้นให้ตูนิเซียไม่ชนะฝรั่งเศส ส่วนเดนมาร์กต้องชนะและลุ้นผลอีกคู่หนึ่งด้วย โดยถ้าทั้งเดนมาร์กและตูนิเซียต่างคว้าชัยชนะ ทั้ง 2 ทีมต้องมาเทียบสถิติผลต่างประตูกันเพื่อหาทีมเข้ารอบน็อกเอาต์

สำหรับเกมคู่ตูนิเซียพบฝรั่งเศส ตูนิเซียใช้ระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย ไอเมน ดาห์เมน / นาเดอร์ กานดรี้, ยาสซีน เมเรียห์, มอนตาสซาร์ ตัลบี / วาจดี้ เคชรีด้า, เอลเยส สคีรี, ไอซ่า ไลดูนี่, อาลี มาอาลูล / อานิส สลิมาน, วาห์บี คาซรี (กัปตัน), โมฮาเหม็ด อาลี เบน รอมดาน

ส่วนฝรั่งเศส แชมป์เก่า กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ตัดสินใจพักผู้เล่นตัวหลักหลายคน โดย 11 ตัวจริงในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย สตีฟ ม็องด็องด้า / อักเซล ดิซาซี่, ราฟาเอล วาราน (กัปตัน), อิบราฮิม่า โคนาเต้, เอดูอาร์โด คามาแว็งก้า / ยุสซุฟ โฟฟาน่า, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, ฌอร์ด็อง เวเรตูต์ / มัตเตโอ เกนดูซี่, ร็องดาล โคโล มูอานี่, คิงส์ลีย์ โคมัน

Advertisement
(Photo by FRANCK FIFE / AFP)

เปิดเกมตูนิเซียก็โหมบุกหนักเพื่อเก็บชัยชนะให้ได้ นาทีที่ 8 ตูนิเซียหวิดได้เฮ เมื่อคาซรี กัปตันทีม เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษ กานดรี้กระโดดวอลเลย์เข้าไปตุงตาข่าย แต่กรรมการยกธงล้ำหน้า

หลังจากนั้น ตูนิเซียยังคงโหมบุกหนัก สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับฝรั่งเศสได้หลายครั้ง แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์จะๆ

นาที 30 สลิมานได้โอกาสโหม่ง แต่บอลไม่มีน้ำหนัก ไปเข้าซองม็องด็องด้า

Advertisement
(Photo by Antonin THUILLIER / AFP)

นาที 35 ตูนิเซียได้เปิดบอลเข้าเขตโทษฝรั่งเศสอีกครั้ง วารานโหม่งเคลียร์ออกมา แต่บอลไปถึงคาซรีซึ่งซัดไกลสวนเข้าไป แต่ม็องด็องด้ายังป้องกันเอาไว้ได้

นาที 42 คาซรีได้บอลในกรอบเขตโทษ พยายามพาบอลเข้าพื้นที่อันตราย ดิซาซี่ป้องกันไว้ได้ และเป็นจังหวะล้ำหน้า

จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

(Photo by FRANCK FIFE / AFP)

ครึ่งหลัง ตูนิเซียยังคงโหมบุกหวังทำประตู นาที 52 ไลดูนี่แย่งบอลจากโฟฟาน่าในกรอบเขตโทษ แต่ยิงข้ามคาน

นาที 58 ตูนิเซียขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ เริ่มจากโฟฟาน่าเสียบอลกลางสนาม บอลไปถึงคาซรีซึ่งอยู่ห่างจากประตูประมาณ 30 หลา คาซรีเลี้ยงบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงหนีมือม็องด็องด้าเข้าไป

(Photo by Jewel SAMAD / AFP)

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตูนิเซียจะได้ประตูขึ้นนำ แต่อีกสนาม ออสเตรเลียก็ได้ประตูนำเดนมาร์ก 1-0 เช่นกัน หากจบลงด้วยสกอร์นี้ ออสเตรเลียจะเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลังฝรั่งเศส

ช่วงท้ายเกม ฝรั่งเศสเปิดเกมบุกได้มากขึ้น ขณะที่ตูนิเซียหันไปตั้งรับลึกเพื่อรักษาสกอร์ นาที 86 เอ็มบัปเป้เปิดบอลให้อุสมาน เด็มเบเล่ ซึ่งส่งต่อไปยังอาเดรียง ราบิโอต์ แต่ราบิโอต์ซัดลูกออกไปแบบไม่มีลุ้น

(Photo by FRANCK FIFE / AFP)

นาที 90+8 อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดนี้ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่กรรมการดูวีเออาร์แล้วเป่าว่าเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้ฝรั่งเศสพลาดโอกาสตีเสมอ

จบเกมตูนิเซียชนะ 1-0 แต่ไม่เพียงพอให้ทีมผ่านเข้ารอบ เนื่องจากอีกสนามหนึ่ง ออสเตรเลียชนะเดนมาร์ก 1-0 โดยฝรั่งเศสจบ 3 นัด มี 6 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มดีไปพบทีมอันดับ 2 ของกลุ่มซี ส่วนออสเตรเลียเป็นรองแชมป์กลุ่มมี 6 คะแนนเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสียแย่กว่า ด้านตูนิเซียมี 4 คะแนน และเดนมาร์กมีแต้มเดียว

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image