“กระทิงดุ” สเปน : อดีตแชมป์โลกที่มาพร้อมกับยุคใหม่

“กระทิงดุ” สเปน : อดีตแชมป์โลกที่มาพร้อมกับยุคใหม่

ทีมอดีตแชมป์โลก 1 สมัย ซึ่งอยู่ในช่วงยุคของการเปลี่ยนแปลงทีมเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว ภายใต้การนำทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตนักเตะทีมชาติและอดีตผู้จัดการทีมของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า

หลังจากที่เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นแชมป์สมัยแรก เมื่อปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ แต่ว่าผลงาน 2 ครั้งหลังสุดต้องบอกว่าไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะในปี 2014 ก็ตกรอบแรก ส่วนเมื่อปี 2018 ก็เจอกับปัญหานอกสนามจนทำให้พ่ายเจ้าภาพอย่าง รัสเซีย ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไป

อย่างไรก็ตามหลังจากจบฟุตบอลโลก 2018 ทีมสเปนได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการนำเอาเอ็นริเก้ เข้ามาคุมทัพ และผลงานก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสามารถผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลยูโร 2020

ทว่าในการแข่งขันรอบคัดเลือกที่ผ่านมากว่าพวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ ต้องลุ้นเหนื่อยอย่างมาก เพราะดันเสมอกับกรีซ และยังไปพ่ายสวีเดน ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างลำบาก ยังดีที่สวีเดนเองไปพลาดพ่ายให้กับจอร์เจียเอง จนทำให้นัดสุดท้ายสเปนเปิดบ้านชนะสวีเดนไปได้ จึงทำให้ได้ตั๋วรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติมาแบบหวุดหวิด

Advertisement

แน่นอนว่าเป้าหมายครั้งนี้ของพวกเขาคือการกลับมาคว้าแชมป์โลกให้ได้อีกครั้ง แต่ก็คงต้องถามเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี, คอสตาริก้า และ “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ที่คงไม่ยอมให้ผ่านเข้ารอบไปได้ง่ายๆ แน่นอน

นับเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งที่ 2 ของเอ็นริเก้ในการคุมทีมชาติสเปน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นคนทำทีมที่ไม่หวือหวา แต่มีความมั่นคงในตัวเอง และมีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาสดาวรุ่ง พร้อมทั้งกล้าตัดตัวเก๋าอย่างเซร์คิโอ รามอส พ้นทีมได้

นักเตะคนสำคัญของทีมชาติสเปนชุดนี้ คงหนีไม่พ้น เปดรี้ เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนให้กับทีมได้อย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ทีมชาติสเปนจะขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด รวมถึงยังมีอีก 2 ผู้เล่นที่น่าสนใจ ทั้งกาบี้ เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมปีล่าสุด และเฟร์ราน ตอร์เรส

Advertisement

โปรแกรมของทีมชาติสเปน
23 พฤศจิกายน พบ คอสตาริก้า ที่อัล ธูมาม่า สเตเดียม เวลา 23.00 น.
27 พฤศจิกายน พบ เยอรมนี ที่อัล บายัต สเตเดียม เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 28 พฤศจิกายน)
1 ธันวาคม พบ ญี่ปุ่น ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 2 ธันวาคม)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image