“เพื่อไทย” ตั้งโต๊ะแถลง จี้ รบ.ใช้อำนาจเสมือนเป็นรัฐบาลรักษาการ-งดใช้ ม.44-รักษาความเป็นกลาง พร้อมชวน ปชช. สอดส่อง-เปิดโปงทุจริตลต. และชวนพรรคการเมืองหาเสียงสร้างสรรค์
เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 24 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายโภคิน พลกุล นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรค และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 28 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. พรรคจะเชิญผู้สมัครทั้งหมดจากทั่วประเทศมาประชุมร่วมกัน เพื่อแนะแนวยุทธศาสตร์ แนวทางข้อกฎหมาย ข้อบังคับข้อควรระวังในช่วงของการเลือกตั้ง รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนจะยื่นใบสมัครในวันที่ 4 ก.พ. ทั้งนี้ในวันดังกล่าวจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ระบบเขตเป็นหลัก ในส่วนของผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 รายชื่อ จะเปิดตัวไม่เกินวันที่ 8 ก.พ. เนื่องจากในส่วนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ นอกเหนือจากการนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค ยังต้องสอบถามความคิดเห็นของสมาชิกอย่างกว้างขวาง รวมถึงตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสาขาพรรคด้วย
โดยนายชูศักดิ์ อ่านแถลงการณ์พรรค พท.ระบุว่า ขอร่วมแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยที่จะมีโอกาสกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองด้วยการเลือกผู้แทนของตนเข้ามาบริหารประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่มีการบริหารของรัฐบาล คสช. ได้มีการกระทำหลายครั้ง ที่ส่อให้เห็นว่าใช้อำนาจและกลไกของรัฐ อันจะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เช่น การที่ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ร่วมจัดตั้งและเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง แต่ไม่ลาออกการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้เล่นไม่ใช่เป็นกรรมการ ถ้ายินยอมเป็นนายกฯในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แทรกแซงการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. และการเลือกปฏิบัติต่อพรรคพท. โดยการไม่อนุญาตให้พรรคพท.ใช้สถานที่ราชการจัดเวทีปราศรัย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้อนุญาตให้พรรคการเมืองบางพรรคใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ พรรคพท.เห็นว่าการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและน่าเชื่อถือเท่านั้นที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประเทศ จึงขอเรียกร้อง 1.รัฐบาลต้องใช้อำนาจเสมือนเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่ริเริ่มโครงการใหม่ที่ต้องใช้งบประมาณผูกพัน ต้องไม่โยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการที่จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง 2.หัวหน้า คสช. ต้องงดเว้นการใช้อำนาจตามมาตรา 44 3.คสช. และรัฐบาลต้องรักษาความเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัดและไม่ใช้อำนาจ ข้าราชการและกลไกของรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองหรือเลือกปฏิบัติหรือให้โทษต่อพรรคการเมืองใด นายกฯต้องกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการรวมทั้งรัฐมนตรี วางตนเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง 4.กกต. ต้องไม่ยอมให้มีการแทรกแซงการทำหน้าที่โดยเด็ดขาด และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ามีการใช้อำนาจรัฐเพื่อเป็นคุณแก่พรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ 5.ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนสอดส่องและเปิดโปงการทุจริตการเลือกตั้งทุกรูปแบบ 6.เรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองทำการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนและผลการเลือกตั้ง
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอฝากถึง กกต. ให้รีบพิจารณาในหลายคำถามที่ยังเป็นประเด็น เช่น การโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียที่เป็นระเบียบใหม่ที่เกิดขึ้น เรื่องของการยื่นหลักฐานการเสียภาษี ที่เป็นระบบใหม่ ต้องยื่น 3 ปี ติดกัน นับตั้งแต่ปีที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งหลายคนยังไม่ได้รับเอกสารแบบการยื่นเสียภาษีของปี 61 หรือเรื่องการส่งข้อความหรือคอมเมนต์ทางไลน์ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ถามว่าจะต้องแจ้งทาง กกต. หรือไม่ โดยเรื่องเหล่านี้ขอให้ กกต. เร่งพิจารณา
