“เซ็นทรัลรีเทล” ปรับทัพใหญ่ประกาศศักดาสู่เวทีค้าปลีกโลก พร้อมเดินหน้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า ได้ประกาศเดินหน้าสู่การเป็น “นิวเซ็นทรัล นิวรีเทล – New Central New Retail” กับปฐมบทใหม่แห่งวงการค้าปลีกที่ไร้พรมแดนและไร้ขีดจำกัด เตรียมพร้อมเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ด้วยการรวมธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล ในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานและบริหารของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่มีศักยภาพการทำธุรกิจบน Customer-Centric Omnichannel Platform เชื่อมต่อประสบการณ์ช้อปปิ้งทั้งที่ร้านค้าและช่องทางออนไลน์อย่างไร้ร้อยต่อให้กับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

“อาณาจักรค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล เริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของธุรกิจครอบครัวเมื่อ 72 ปีก่อน ที่เรามุ่งมั่นในการนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ ๆ ที่สามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกและเทรนด์เซ็ตเตอร์ โดยเป็นผู้ริเริ่มการทำห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย ไปจนถึงการทำธุรกิจค้าปลีกแบบ Multi-format ผ่านการเปิดร้านค้าเฉพาะทางและธุรกิจค้าปลีกหลายรูปแบบ และปัจจุบันได้
ต่อยอดจากช่องทางออฟไลน์สู่ Omnichannel เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยัง
ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาจนมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก รวม 1,979 แห่ง ครอบคลุม 51 จังหวัดทั่วประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) พร้อมทั้งต่อยอดความสำเร็จสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งในประเทศอิตาลีและเวียดนาม รวม 134 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนา วันนี้ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมแล้วที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จอีกระดับ ภายใต้การบริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพ นับเป็นก้าวใหม่ของเซ็นทรัล รีเทล และวงการค้าปลีกของไทย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก” นายทศกล่าว

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า จากการที่ได้ร่วมทำงานกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างใกล้ชิด ตนเชื่อมั่นว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมและพร้อมที่สุดสำหรับเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จขั้นต่อไป จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการเติบโตของ GDP พร้อมด้วยกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ขยายตัว รวมถึงการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและการเป็น 1 ใน 20 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก

“นอกจากปัจจัยเกื้อหนุนทางเศรษฐกิจ เซ็นทรัล รีเทล ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารงานจากธุรกิจครอบครัวสู่การขับเคลื่อนร่วมกับทีมผู้บริหารมืออาชีพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมากด้วยความสามารถและประสบการณ์ในการทำธุรกิจค้าปลีก พร้อมไปกับการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของธรรมาภิบาลที่ดี รวมถึงยังห่วงใยและพร้อมเติบโตไปกับทุกสังคมที่เข้าไปดำเนินงาน ผ่านโครงการต่าง ๆ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่า สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชนพร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายประสาร กล่าว

Advertisement

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี
ที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจรูปแบบใหม่จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัล รีเทลในการเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯ ภายใต้วิสัยทัศน์และพันธกิจที่มุ่งหวังความเป็นเลิศในธุรกิจค้าปลีกที่สร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลายในทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล มีโมเดลการดำเนินธุรกิจที่มีเอกลักษณ์จากธุรกิจค้าปลีก ซึ่งครอบคลุม 3 กลุ่มหลัก คือ แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ ฟู้ด (Multi-category) ในหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ทั้งในและต่างประเทศ (Multi-market) ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้พัฒนา ต่อยอด และเชื่อมทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งของลูกค้า ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เรียกว่า Central Retail Experience” นายญนน์กล่าว

นายญนน์กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุม 51 จังหวัดทั่วประเทศไทยด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ รวม 1,979 แห่ง มีห้างสรรพสินค้า 9 แห่งใน 8 เมืองยุทธศาสตร์ของอิตาลี รวมทั้งมีไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายสินค้าเฉพาะทางรวม 125 แห่ง ใน 37 เมืองในเวียดนาม (ข้อมูลจำนวนร้านค้า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) ความแข็งแกร่งของเครือข่ายห้างร้านของกลุ่มเซ็นทรัลเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่เสริมให้องค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวเว็บไซต์ central.co.th อันเป็นจุดเริ่มต้นของการค้าออนไลน์และอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคเข้าสู่การค้าปลีกยุคใหม่ จากรากฐานที่มั่นคงของเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและร้านค้า ผนวกกับการขยายตัวสู่โลกดิจิทัลในทุกแบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญ ที่กลายเป็นส่วนผสมที่ผลักดันให้การดำเนินธุรกิจบน Customer-Centric Omnichannel Platform ของเซ็นทรัล รีเทล ได้เชื่อมต่อและครอบคลุมโลกแห่งการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างโอกาสในทางธุรกิจแบบไร้รอยต่อและสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งสามารถสร้างรายได้รวม (Total Gross Revenue) 240,297 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

นายญนน์กล่าวว่า รากฐานอันแข็งแกร่งของ เซ็นทรัล รีเทล นำไปสู่ความพร้อมในการต่อยอดและยกระดับศักยภาพการแข่งขันและเติบโตครั้งใหม่ ที่เรียกว่า Central Retail Economy ประกอบด้วย 3 หัวใจหลัก ได้แก่
1. Business Highlights ความโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก 2. Thriving Ecosystem ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงแต่ละโมเดลทางธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันจนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 3. Clear Positioning to Win กลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกระดับภูมิภาคและก้าวต่อไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกระดับโลก ด้วยก้าวย่างก้าวแรกที่สำคัญ กับแผนการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image