ลุ้นดีเซลลด 2 บาท หลัง กบน.สั่งลด 50 สต./ลิตรนี้ 15 ก.พ.

ลุ้นดีเซลลด 2 บาท หลัง กบน.สั่งลด 50 สต./ลิตรนี้ 15 ก.พ.

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงพลังงาน นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงแนวทางบริหารราคาน้ำมันดีเซล ว่า ที่ประชุมสกนช. ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร เหลือ 35.44 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคา 34.94 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากปรับขึ้นวันที่ 14 มิถุนายน 2565

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า การลดราคามาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง เดือนมกราคมเฉลี่ยดีเซลอยู่ที่ 116 .12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ภายใต้สมมติฐานไม่เกิน 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ สามารถจัดเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯวันที่ 2 กุมภาพันธ์ลิตรละ 5.19 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มผ่อนคลายลง ณ วันที่ 29 มกราคม 2566 ติดลบอยู่ที่ 113,436 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันลบ 68,133 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีลบ 45,303 ล้านบาท อีกปัจจัยมาจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 4 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม – 20 พฤษภาคม 2566 ช่วยให้การบริการจัดการสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯมีทิศทางดีขึ้น จึงเห็นควรลดราคาขายปลีกลงเพื่อช่วยเหลือประชาชน

“การลดราคา 50 สตางค์ต่อลิตรดังกล่าวเป็นการทยอยลด เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดโลกที่ยังผันผวน และเพื่อไม่ให้กองทุนฯขาดรายได้ มีความเสี่ยงเกินไป โดยจะพิจารณาอย่างใกล้ชิดหากตลาดโลกลดลงก็มีโอกาสลดลงอีกอาจพิจารณาทุกครึ่งเดือน สำหรับข้อเสนอกระทรวงการคลังให้ลดราคาดีเซล 2 บาทต่อลิตร ต้องอยู่ที่สถานการณ์โลกเป็นหลัก แต่ต้องไม่ลืมว่ากองทุนน้ำมันฯยังเป็นหนี้ 113,436 ล้านบาท จำนวนนี้มาจากการอุดหนุนดีเซลจนติดลบถึง 68,133 ล้านบาท และยังมีเงินกู้สถาบันการเงินเพื่อรักษาสภาพคล่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีภาระดอกเบี้ยต้องจ่าย ทั้งนี้จากการปรับลด 50 สตางค์ต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันฯรายได้ลดลงหลักร้อยล้านบาทต่อเดือน ถือว่าไม่มาก” นายวิศักดิ์ กล่าว

ข่าวน่าสนใจอื่น:

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image