ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 17 |
---|---|
เผยแพร่ |
‘อย่าอยู่เฉย’ เติมไฟวัยเกษียณ กับการ ‘สร้างคุณค่า’ ให้ตัวเอง
เติมไฟวัยเกษียณ – เป็นมาแล้วทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง นักเขียนบทละครเวที ผู้กำกับละครเวที ทั้งยังเป็นอดีตผู้อำนวยการสำนักงานองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่นานหลายปีกระทั่งเกษียณตัวเอง ออกมาเป็น “นักเขียน” ซึ่งมีผลงานหนังสือมาแล้วกว่า 30 เล่ม ที่บอกเลยว่าลวดลายการเขียนไม่ธรรมดา
สำหรับ พงษ์อนันต์ สรรพานิช หรืออาจารย์เอ้ วัย 67 ปี ที่ออกตัวว่า “เขียนไม่เก่ง” แต่ล่าสุดจัดงานเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ “จินตวรรณกรรมคำกวี ‘นารายณ์’ “ ความหนาของหนังสือก็เพียง 688 หน้า!
แบ่งเป็นสองฟาก เบื้องหน้าเป็นบทกลอนเล่าเรื่องราวถึงที่มาของเมืองพิษณุโลก น่าสนใจในประเด็นที่ว่าพระนารายณ์เกี่ยวข้องยังไงกับจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นเมืองเกิดของผู้แต่ง ส่วนอีกฟากเป็นเบื้องหลังที่บอกเล่าการเดินทางตลอด 10 ปีในการเขียนหนังสือเล่มนี้ผ่านตัวละครชื่อว่า สมมา และ เบญจพงษ์
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
อาจารย์เอ้เผยว่า สำหรับคนที่ใกล้เข้าวัยเกษียณบอกเลยว่า “อย่าอยู่เฉย” พอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชีวิต ถ้าปล่อยให้ตัวเองอยู่เฉยๆ จะรู้สึกว่างและว้าเหว่ หรือจะหวังอาศัยลูกๆ ก็ทำได้ไม่มาก เพราะพวกเขาก็มีเส้นทางทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานของเขา ฉะนั้นเพื่อที่จะสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ต้องคิดก่อนว่าอย่าหวังให้ใครมาเห็นคุณค่าเพราะเราทำเพื่อตัวเอง เพียงทำแล้วรู้สึกภูมิใจและมีความสุขก็พอแล้ว มากไปกว่านั้นหากเป็นไปได้ ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี
ซึ่งนอกจากรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดฯแล้ว อ.เอ้ ยังสร้างห้องสมุด “สมมาเบญจพงษ์” เพื่อเด็กๆ และประชาชนที่ ต.ท่าทอง จ.พิษณุโลก ให้ได้เข้าถึงคลังความรู้อีกด้วย
“เราทำเพื่อตัวเองมาเยอะแล้วตลอดชีวิตการทำงาน แล้วทำไมก่อนที่เราจะไปจากโลกนี้จะไม่ทำเพื่อคนอื่นบ้าง” พงษ์อนันต์กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ ขรรค์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการมูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ กล่าวว่า ปัจจุบันคนตาบอดประสบปัญหาน้อยลงด้วยมีเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนให้ใช้ชีวิตได้ราบรื่นขึ้น เช่นว่า สมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง สามารถใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือ สั่งอาหาร เรียกแท็กซี่ และบริหารจัดการบัญชีได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ในอดีต เทคโนโลยีจึงเป็นตัวกลางที่เชื่อมพวกเขากับโลกภายนอกได้
อย่างไรก็ตามในยุคที่การสื่อสารในโลกออนไลน์สำคัญมาก ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูล อยากให้คนหนุ่มสาวเข้ามามีบทบาททำงานช่วยเหลือสังคม ให้ความสำคัญและช่วยเหลือคนตาบอดมากขึ้น
สร้างคุณค่าต่อสังคม