กรุงเทพฯ – 26 กรกฎาคม 2559 – บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เปิดเผยผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในรูปแบบ Private Placement (PP) หรือการขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดว่าได้รับผลตอบแทนยอดเยี่ยมเกินความคาดหมายรวมมูลค่าทั้งสิ้น 960 ล้านบาท โดยสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดจำนวน 320 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท ให้กับสถาบันลงทุนต่างประเทศทั้งหมด โดยกองทุน Templeton ลงทุนถึงร้อยละ 50 ของหุ้นที่จัดสรรทั้งหมด ส่วนที่เหลือขายให้แก่สถาบันต่างชาติขนาดใหญ่ เช่น AIA Millennium และ Oasis เป็นต้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส เป็นบริษัทผู้จัดการการจัดจำหน่าย และ CLSA Singapore Pte Ltd. เป็นผู้แทนจัดจำหน่าย (Placement Agent)
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่สถาบันลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของ PACE และยังเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นในด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ที่บริษัทฯเชี่ยวชาญ จนถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์แบรนด์ไอคอนของนิวยอร์ค ดีน แอนด์ เดลูก้า ที่อนาคตไกลและสถาบันลงทุนต่างชาติทั้ง 3 แห่งให้ความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากธุรกิจดีน แอนด์ เดลูก้าของ PACE เป็นแบรนด์ที่มีสาขามากกว่า 50 สาขาใน 8 ประเทศทั่วโลก”
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ผู้จัดการ การจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในครั้งนี้ ให้ความเห็นว่า “ผลตอบรับที่ได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมั่นใจใน PACE ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจอย่างเห็นได้ชัดเจน ภายใต้การบริหารที่เป็นไปตามแผนงานอย่างน่าพอใจ เอเชียพลัสมีโอกาสได้ร่วมงานกับ PACE มาตั้งแต่ IPO ในปี 2556 และได้เห็นพัฒนาการการเติบโตของบริษัทที่สามารถขยายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไฮเอนด์ในระดับประเทศ สู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ระดับโลก ทั้งยังสามารถรักษามาตรฐานและความเป็นมืออาชีพสูงสุดในทุกโครงการและทุกธุรกิจที่ทำด้วยจุดยืนและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ซึ่งวันนี้ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่านอกจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันในประเทศ PACE ยังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันระดับโลกอีกด้วย
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล. ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) ผู้แทนจัดจำหน่าย (Placement Agent) กล่าวว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จในการขยายฐานผู้ถือหุ้นของ PACE ซึ่ง CLSA รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในการนำสถาบันการลงทุนต่างชาติมาสู่ PACE ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของคุณสรพจน์และทีมงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ทำให้ PACE มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติชั้นนำสนใจในตัวบริษัท ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของธุรกิจ ดีน แอนด์ เดลูก้าหรือความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไฮเอนด์ ซึ่งทั้งสองเป็นส่วนผสมสำคัญที่จะสร้างการเติบโตและรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้กับบริษัท
เมื่อเร็วๆ นี้ PACE ประกาศแผนเพิ่มทุนแบบ PP เพื่อซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการที่พักอาศัยไฮเอนด์ ที่นิเซโกะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่โครงการมหานครก่อสร้างภายนอกเสร็จสมบูรณ์และได้รับการขนานนามว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยจากสมาคมตึกสูงโลก (CTBUH) ในส่วนยอดขายเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ปัจจุบันมียอดขายกว่าร้อยละ 70 และได้เริ่มโอนตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โครงการมหาสมุทร คันทรี คลับ และ โครงการ มหาสมุทร วิลล่า ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและมียอดขายอย่างต่อเนื่อง โครงการนิมิต หลังสวนได้เริ่มการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 และโครงการที่ถนนนราธิวาส คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็ววันนี้
นอกจากรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว PACE ยังมีสินทรัพย์รูปแบบฟรีโฮลด์ ในโครงการ มหานครที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ พื้นที่รีเทล โรงแรม บางกอก เอดิชั่น ร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าของโครงการ รวมถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่สามารถรองรับผู้เยี่ยมชมถึง 6 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ หลังจากเปิดให้บริการประมาณ 1-2 ปี บริษัทฯ มีแผนที่จะนำรายได้ส่วนนี้จัดตั้งกองทุน REIT ต่อไป
ในส่วนของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ดีน แอนด์ เดลูก้า บริษัทได้มีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมกว่า 100 สาขาในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2561 พร้อมรูปแบบและการตกแต่งของร้านที่ทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ในประเทศไทยปัจจุบันมีทั้งหมด 6 สาขา โดยล่าสุดเพิ่งทำการเปิดดีน แอนด์ เดลูก้าสาขาที่ 6 ที่ เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอิทรา เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
